ไม่ใช่ผี! คลิปช็อกสาวปริศนาโดดขวางรถ ที่แท้วิ่งหนีเพื่อนชายทำอนาจาร

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟชบุ๊กชื่อ “สฤษฎิชัย ยะโสภณ” ได้โพสต์คลิปภาพความยาว 13 วินาที ลงในกลุ่มสังคมออนไลน์ เพื่อเตือนภัย โดยได้โพสต์ข้อความประกอบว่า คลิปนี้เป็นคลิปเพื่อให้ผู้ขับรถระวังเวลาขับรถในที่แสงสว่างไม่เพียงพอ เหตุเกิดเวลาประมาณ 03.00น. วันที่ 9 พ.ค.2561 เส้นทางไปบ้านแม่หยวก ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จว.ลำปาง ได้พบบุคคลปริศนายืนขวางถนน นั้น

ล่าสุด (13 พ.ค.)  ทาง สภ.เกาะคา จว.ลำปาง นำโดย พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก.สภ.เกาะคา ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนฯ ลงพื้นที่เพื่อสืบข่าวกรณีพบบุคคลปริศนายืนขวางถนน จากการสืบสวนจึงทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นหญิงสาวคือ นางสาวเอ (นามสมมุติ) โดยจากการสอบถามปากคำ ได้ความว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2561 ตนเองได้ทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.เกาะคา จ.ลำปาง จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.01 น.ของวันที่ 10 พ.ค.2561 จึงเลิกงานและได้ร่วมดื่มสุรากับเพื่อนจนถึงเวลาประมาณ 02.00 น. หลังจากเลิกดื่ม ได้มีเพื่อนชายคนหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ขออาสาไปส่งตนเพื่อกลับบ้าน เมื่อขับรถออกมาตามทางชายคนดังกล่าวได้ขับรถวนไปมาในสถานที่ต่างๆ ที่ตนไม่รู้จัก และได้มาหยุดบริเวณพื้นที่ที่เกิดเหตุ จากนั้นเพื่อนชายคนดังกล่าวได้กระทำอนาจารตน แต่ตนไม่เต็มใจจึงได้วิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุเพื่อขอความช่วยเหลือ

โดยตนเองได้โบกมือเพื่อเรียกรถที่ผ่านมาหลายคันแต่ไม่มีคันไหนหยุด ตนจึงได้ตัดสินใจกระโดดขวางหน้ารถคันดังกล่าว แต่รถคันดังกล่าวหักหลบและได้ขับต่อไป หลังจากการกระทำดังกล่าวเพื่อนชายคนนั้นจึงได้กลับใจ เดินมาหาตนและขอโทษจากนั้นได้พาตนไปส่งที่บ้าน กระทั่งพบคลิปตนเองในสื่อออนไลน์ ซึ่งจำได้ว่าเป็นตนเอง โดยได้สวมเสื้อสีเหลือง-ดำ(มีรอยขาดเล็กน้อยที่แขน) สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน และรองผ้าใบสีชมพู แต่เนื่องจากภาพที่ปรากฏเป็นเสื้อสีขาวและรองเท้าสีขาวนั้น เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการสะท้อนของแสงไฟหน้ารถซึ่งเป็นเเสงสีขาว

และจากการที่ชุดสืบสวนฯ ได้สอบถามกลับไปยังผู้โพสต์คลิปดังกล่าว ก็ทราบว่านางสาวเอ (นามสมมุติ) ได้โทรศัพท์หาตนเพื่อขอโทษและอธิบายเหตุการณ์ให้ตนทราบแล้ว ประกอบกับลักษณะรูปร่างตามรูปถ่ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำให้ดูแล้วนั้น อีกทั้งนางสาวเอ (นามสมมุติ) ยังได้กล่าวถึงพวงกุญแจรูปเต่าสีชมพู ซึ่งตนเก็บได้ในที่เกิดเหตุและมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วนั้นด้วย ตนก็เชื่อว่าบุคคลในคลิปน่าจะเป็นนางสาวเอ (นามสมมุติ) จริง
สุดท้ายนี้นางสาวเอ (นามสมมุติ) ได้กล่าวขอโทษสังคมในเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายต่อผู้หนึ่งผู้ใดตามที่สื่อออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ เหตุที่ตนกระทำไปเพราะหวังเพียงต้องการความช่วยเหลือ ในส่วนของการดำเนินคดีกับเพื่อนชายคนดังกล่าวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป