อาหารสัตว์จ้องล้มส่งออกข้าวโพด
หากปล่อยให้ประมูลเพื่อส่งออกเหมือนเดิม ข้อดีคือราคาข้าวโพดในประเทศจะไม่ตกต่ำและเกษตรกรไม่ต้กพ่อค้ากดราคารับซื้อ แต่ข้อเสียคือผู้ผลิตอาหารสัตว์ในประเทศจะมีต้นทุนสูงขึ้น เพราะต้องยอมซื้อจากเกษตรกรในราคาสูงเท่ากับตลาด ในทางกลับกันหากรัฐเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลให้ระบายเพื่อใช้ในประเทศด้วย อาจทำให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์มีต้นทุนลดลง แต่ราคาตลาดในประเทศอาจลดลงตาม และกลายเป็นข้ออ้างให้กลุ่มนายทุนกดราคารับซื้อจากเกษตรกร จนทำให้ผู้ปลูกข้าวโพดเดือดร้อนในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสงสัยเพิ่มเติมว่าราคารับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 51/52 ที่กก.ละ 8.50 บาท กับราคาตลาดปัจจุบันมีความแตกต่างกันมาก อาจเป็นสาเหตุให้มีผล ประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง จนกลายเป็นปัญหาระหว่างผู้ซื้อและผู้อนุมัติขาย โดยราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในตลาดชิคา โก ที่สหรัฐ ซึ่งรวมค่าขนส่งและประกันแล้วอยู่ที่กก.ละ 7 บาท แต่การระบายข้าวโพดของรัฐบาลให้เอกชนเพื่อสอกมีราคาเฉลี่ย 4-5 บาทเท่านั้น และมีส่วนต่างราคาถึงกก.ละ 2-3 บาท ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลขาดทุนจากการระบายข้าวโพดครั้งนี้ถึง 2,000 ล้านบาท ด้านรายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ได้ปฏิเสธว่า ไม่มีชื่อบริษัทแบล็กลิสต์ยื่นซองชนะการประมูลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รอบนี้ โดยบริษัท สยามธัญรักษ์ไซโล จำกัด ซึ่งตกเป็นข่าวว่าเป็นบริษัทในเครือบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด นั้น เมื่อตรวจสอบแล้วเป็นคนละบริษัท และไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ถ้าให้ตรวจสอบทางลึกว่าเป็นนอมินีของบริษัทนี้ หรือมีเจ้าของคนเดียวกันหรือไม่นั้นทำได้ยาก ด้านนางพรทิวา นาคาศัย กล่าวว่า ยังยืนยันจะระบายข้าวโพด 4.5 แสนตันให้เอกชนผู้ชนะประมูลทั้ง 3 รายต่อไป.