หมายจับกับบรรจง :ก้าวที่ต้องเดินต่อของ...ตลาดคลองเตย

หมายจับกับบรรจง :ก้าวที่ต้องเดินต่อของ...ตลาดคลองเตย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คมชัดลึก : ท่ามกลางปมความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในตลาดคลองเตย มีคำถามเกิดขึ้นว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ปัญหาต่างๆ จึงจะยุติลงไปได้ และควรจะยุติในรูปแบบไหนอย่างไร ก้าวเดินต่อไปของตลาด คลองเตย จะไปเดินสู่ตลาดที่มีอนาคตรุ่งโรจน์หรือรุ่งริ่ง ? ตลาด คลองเตย เป็นตลาดใหญ่ใจกลางกรุง มีความเป็นมายาวนานหลายสิบปี พ่อค้าแม่ค้าหลายรายค้าขายมายาวนาน ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่สืบเนื่องมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน คุ้นเคยและคุ้นชินกับการเป็น ผู้เช่า ภายใต้การบริหารตลาดของตระกูลผู้บุกเบิกตลาดรายเก่ามาโดยตลอด จนมาถึงวันที่ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้เกิดความ กลัว ว่าความเปลี่ยนแปลงจะกระทบต่อหนทางทำมาหาเลี้ยงชีพของตนเอง จริงๆ แล้วที่ผ่านมาเจ้าของพื้นที่คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ต่อสัญญาให้แก่ผู้บริหารตลาดรายเดิมอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี จนผู้บริหารตลาดแทบจะกลายเป็นเสือนอนกิน เพราะผลประโยชน์ที่เก็บเกี่ยวได้จากผู้ค้าในตลาดปีละนับร้อยล้านบาท ถือว่าคุ้มค่ามหาศาล เมื่อเทียบกับค่าผลประโยชน์ที่ต้องจ่ายให้แก่การท่าเรือปีละประมาณ 12 ล้านบาท ทว่าที่ผ่านมาดูเหมือนว่าการเติบโตของตลาด คลองเตย กลับขาดการดูแลเอาใจใส่ในเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในตลาด มีการร้องเรียนเรื่องการปล่อยมลพิษ ขยะ และน้ำเสีย โดยไม่มีระบบการจัดการบำบัดใดๆ ที่ดีพอ จนกระทั่งกรมควบคุมมลพิษมีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ วันที่ 31 มีนาคม 2551 สัญญาระหว่างการท่าเรือกับผู้บริหารตลาดรายเดิมหมดลง โดยผู้บริหารตลาดรายเดิมมีความพยายามขอต่อสัญญาไปอีก 20 ปี แต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะการท่าเรือต้องการพัฒนาตลาดให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใหม่จึงล้างไพ่ เปิดประมูลใหผู้สนใจ โดยไม่ปิดกั้นโอกาสผู้บริหารตลาดรายเดิมแต่อย่างใด แต่ผู้บริหารตลาดรายเดิมนอกจากไม่เข้าร่วมแข่งขันราคาแล้ว ยังชักชวนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเดินสายคัดค้านการเปิดประมูลพื้นที่ของการท่าเรือมาโดยตลอด จนกระทั่งได้ผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ภายใต้สัญญาระยะเวลา 10 ปี จ่ายผลประโยชน์ให้การท่าเรือปีละ 61.3 ล้านบาท ก็ยังมีการคัดค้านไม่ให้ผู้บริหารรายใหม่เข้ามาบริหารพื้นที่ ที่สำคัญคือทั้งที่รู้ว่าตนเองไม่ได้รับการต่อสัญญาจากการท่าเรือแล้ว แต่ก็ยังมีการเรียกเก็บค่าเช่าแผงจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าล่วงหน้า รวมถึงร้องไปยังหน่วยงานต่างๆ ว่าการท่าเรือเปิดประมูลมิชอบ ต้องการให้ยกเลิกสัญญาประมูล แล้วเปิดประมูลกันใหม่ ทั้งๆ ที่ผ่านมาผู้บริหารตลาดรายเดิมผูกขาดผลประโยชน์ได้รับการต่อสัญญามาโดยตลอด ทั้งที่ให้ผลตอบแทนกับการท่าเรือต่ำกว่าที่ควรให้ แต่ก็ไม่เห็นมีใครออกมาคัดค้าน ต่อต้าน ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ หรือให้ตรวจสอบความชอบธรรมของสัญญาที่ผู้บริหารตลาดรายเดิมผูกขาดอยู่แต่อย่างใด แต่เมื่อใดก็ตามที่ทำท่าว่าพื้นที่ตรงนี้จะหลุดลอยจากมือผู้บริหารตลาดรายเดิม ก็จะปรากฏภาพการชุมนุมประท้วงคัดค้านมาโดยตลอด ดังนั้นเรื่องนี้เมื่อผู้บริหารตลาดรายเก่าไม่ยอมถอยออกตามกติกา ขณะที่ผู้บริหารตลาดรายใหม่ก็อ้างสิทธิตามกฎหมาย แน่นอนว่าย่อมหนีไม่พ้นการกระทบกระทั่งกันระหว่างสองฝ่าย รวมไปถึงกลุ่มผู้ค้าที่ถือหางแต่ละฝ่ายอยู่ก็เกิดการกระทบกระทั่งกันไปด้วย ท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็จบลงด้วยความบาดเจ็บและสูญเสีย ถามว่าประชาชนที่เดินทางไปจ่ายตลาดต้องการอะไรจากเรื่องเหล่านี้ ส่วนใหญ่คงตอบได้ว่าอยากให้ความขัดแย้งยุติลง พื่อที่จะเดินจ่ายตลาดได้อย่างสบายใจ เมื่อความขัดแย้งยุติลงก็อยากเห็นสภาพความเปลี่ยนแปลงภายในตลาดที่ดีขึ้น มีการบริหารจัดการที่ดี โดยเฉพาะปัญหามลพิษ ขยะ และน้ำเสียต้องหมดไป ยิ่งถ้าได้เดินซื้อของภายในบรรยากาศที่โปร่ง โล่ง สบาย ไม่แออัดไร้ความเป็นระเบียบได้ก็ยิ่งชวนให้น่ามาเดินบ่อยๆ ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องซื้อของแพงขึ้น เหมือนกับไปเดินตลาดติดแอร์ตามห้าง ซึ่งก็หมายความว่าแม้จะมีการพัฒนาตลาดรูปแบบใหม่ ก็ไม่ควรเก็บค่าเช่าแผงค้าจากผู้ค้าที่สูงขึ้นจากของเดิม ไม่เช่นนั้นพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องขายของแพงขึ้น เพื่อให้มีเงินเหลือจ่ายค่าเช่าแผง ประเด็นตรงนี้ที่ผ่านมาก็ได้รับคำยืนยันจากผู้บริหารตลาดรายใหม่ว่าไม่ได้มีการประกาศขึ้นค่าเช่าแผงแต่อย่างใด รวมถึงให้สิทธิผู้ค้าเดิมได้ค้าขายภายในตลาดต่อเนื่องต่อไป ไม่ให้ได้รับผลกระทบ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้การท่าเรือได้ผลประโยชน์มากขึ้น มีการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของตลาดดีขึ้น ประชาชนได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น และผู้ค้าก็จะได้ขายของในตลาดที่ดูทันสมัยขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะดึงดูดให้ผู้คนมาเดินตลาดได้มากขึ้นด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประชาชนกำลังจะได้เห็นในอนาคต หากการพัฒนาตลาดใหม่ของบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล เป็นไปตามแผน ตามสัญญาที่ทำไว้กับการท่าเรือ แต่จะได้เห็นเร็วหรือช้า หรืออาจไม่ได้เห็นเลยนั้น ขึ้นอยู่กับใคร...คิดว่าหลายคนคงรู้ดีครับ แจ้งเบาะแสทีมงาน หมายจับกับบรรจง 0-2338-3840 อีเมล jong_ntv@hotmail.com
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook