ญาติยังติดใจ หนุ่มใหญ่ตายปริศนาริมน้ำตก ขอเก็บศพไว้ไม่เผา

ญาติติดใจการตายหนุ่มใหญ่ที่น้ำตกโตนปลิว สงสัย 2 ประเด็น การใช้โทรศัพท์และทรัพย์สินที่หายไป ส่งผ่าพิสูจน์และนำร่างกลับมาทำพิธี ประกาศยังไม่เผา จนกว่าคดีจะคลี่คลาย

เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ที่ สภ.นาโยง ต.ตรัง ญาติของนายอรรณนพ อายุ 57 ปี ผู้เสียชีวิตที่เพิ่งถูกพบร่างไร้วิญญาณที่บริเวณน้ำตกโตนปลิว เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ได้เดินทางมาพบ ร.ต.อ.สุวิทย์ เพ่งเล็ง เจ้าของคดี เนื่องจากยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และพบว่ายังมีเงื่อนงำปมปริศนาต่างๆ ถูกทิ้งเอาไว้

นางเอ็นดู น้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำร่างของพี่ชายส่งทำการชันสูตรผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์และดีเอ็นเอ คาดว่าผลน่าจะออกมาในเร็วๆ นี้ ก่อนจะนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่สมาคมย่านตาขาว แต่จะเก็บศพเอาไว้ก่อน รอผลคดีคลี่คลายลงเสียก่อน

>>> พบแล้ว ศพหนุ่มใหญ่พกเงิน 4 หมื่น กลิ่นศพโชยจากหน้าผาน้ำตกโตนปลิว

สำหรับการเสียชีวิตของพี่ชายในครั้งนี้ ทางญาติๆ ยังสงสัยอยู่ 2 ประเด็น คือ การใช้โทรศัพท์ที่อยากได้ประวัติการติดต่อพูดคุยกับใคร และ เสื้อผ้า ทรัพย์สินต่างๆ เงินสด 40,000 บาท, แหวน, นาฬิกาของผู้เสียชีวิต สูญหายไปทั้งหมด จึงอยากทราบว่าหายไปไหน

คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการหายตัวไปของ นายอรรณนพ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา กระทั่งมาพบร่างเสียชีวิตสภาพเปลือยเปล่าที่น้ำตกโตนปลิว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัว นางสาวจิรวรรณ อายุ 21 ปี หญิงสาวที่อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย ระบุว่ามาน้ำตกกับผู้เสียชีวิตจริง แต่ก่อนเดินทางกับ นายอรรณนพ ได้ขอตัวเข้าไปในป่าอีกครั้ง จึงได้นั่งรออยู่ที่ลานจอดรถ

กระทั่งเวลาผ่านไปช่วงพลบค่ำ นายอรรณนพ ก็ยังไม่กลับมา จึงตัดสินใจเดินออกมาจากน้ำตกเพียงลำพัง แล้วพบว่า นายเจริญ อายุ 45 ปี จึงได้อาศัยพากลับบ้าน ทั้งนี้ นายอรรณนพ พบประวัติว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช ยังได้รับการรักษาอยู่ เช่นเดียวกับ นางสาวจิรวรรณ และ นายเจริญ ก็พบว่ามีอาการป่วยทางจิตเช่นกัน แต่ทั้งสองยังไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยในการเสียชีวิตของนายอรรณนพในครั้งนี้