แม่ใจสลาย น้องสามีเอาลูกไปเลี้ยงติดต่อไม่ได้ กลับมาอีกทีบอกเด็กถูกขโมย

แม่ใจสลาย น้องสามีเอาลูกไปเลี้ยงติดต่อไม่ได้ กลับมาอีกทีบอกเด็กถูกขโมย

แม่ใจสลาย น้องสามีเอาลูกไปเลี้ยงติดต่อไม่ได้ กลับมาอีกทีบอกเด็กถูกขโมย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(7 ก.พ.61) ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี น.ส.ณัฐฐา อายุ 20 ปี ชาวอ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เดินทางมาจากจ.สุโขทัย เข้าพบร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยติดตามตัว ด.ช.ฐิติกร หรือ น้องกร ลูกชายวัย 1 ขวบ 6 เดือน ซึ่งถูก นางสาวเกตุวดี อายุ 25 ปี น้องสาวสามี เป็นชาว อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมา หลอกขอลูกไปเลี้ยงอ้างช่วยแบ่งเบาเวลาที่ตนไปทำงานต่างจังหวัด ผ่านไปร่วม 3 เดือนติดต่อไปได้เลย จนล่าสุดมาบอกว่าลูกถูกคนข้างห้องที่ฝากเลี้ยงอีกทีขโมยไปแล้ว จากนั้นได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สวรรคโลก เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่คดียังไม่มีความคืบหน้าจึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

และระหว่างการเปิดเผยข้อมูล นางปวีณาฯ ได้ประสานทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ กระทั่งสักพักใหญ่ ได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกลับทางโทรศัพท์ แจ้งว่าสามารถควบคุมตัวผู้เป็นอาได้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งดำเนินการติดตามหาตัวเด็กอย่างเร่งด่วน

น.ส.ณัฐฐา เล่าว่า สามีตนถูกจับในคดียาเสพติดและถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ทำให้ตนต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และยังต้องดูแลพ่ออายุ 51 ปี ที่พิการเดินไม่ได้อีกคน ต้องทำงานหาเงินคนเดียวเพื่อเลี้ยงครอบครัว เมื่อประมาณกลางเดือน ต.ค. 60 มีคนมาชวนไปทำงานรับจ้างตัดอ้อยที่ จ.นครสวรรค์ ตอนแรกตนก็ยังไม่ตัดสินใจไปทำเพราะห่วงว่าจะไม่มีคนเลี้ยงลูก ต่อมานางสาวเกตุวดี ได้โทรศัพท์มาหาและเสนอตัวจะช่วยเอาหลานไปเลี้ยงให้โดยไม่คิดค่าจ้างแต่อย่างใด ตนเองก็ดีใจตอบตกลงและพยายามถามที่อยู่ที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม เพื่อจะนำลูกไปส่งและจะได้รู้จักบ้านกันไว้ แต่นางสาวเกศวดีบ่ายเบี่ยงอาสาจะมารับหลานเองด้วยความไว้ใจเห็นว่าเป็นญาติกันตนจึงตกลง จากนั้นนางสาวเกศวดีก็มารับหลานไปอยู่ด้วย ตนก็ได้เดินทางไปทำงานที่ จ.นครสวรรค์ ตามที่ตั้งใจ ต่อมาอีก 2 วัน ตนพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับนางสาวเกศวดี แต่นางสาวเกศวดีกลับไม่ยอมรับสายตอนแรกก็คิดว่าเลี้ยงเด็กแล้วคงจะยุ่ง ซึ่งตนก็ได้แต่โทรหาทุกวันก็ไม่สามารถติดต่อได้

จนกระทั่งเดือน ธ.ค 60 ตนได้เดินทางกลับมาบ้านที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย สอบถามพ่อที่พิการว่า นางสาวเกศวดีได้ติดต่อหรือพาหลานมาเยี่ยมบ้างหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่เคยเลยสักครั้ง ตนจึงตัดสินใจไม่ไปทำงานต่างจังหวัดและเฝ้ารอลูกอยู่ที่บ้าน ขณะเดียวกันก็พยายามโทรติดต่อกับนางสาวเกศวดีเผื่อว่าวันหนึ่งจะรับสายแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้โทรหาเพื่อนๆ ของนางสาวเกศวดีเพื่อถามข่าวคราวแต่ทุกคนก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ติดต่อกับนางสาวเกศวดีนานแล้ว

น.ส.ณัฐฐา กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 26 ม.ค. 61 นางสาวเกศวดี ได้โทรศัพท์มาหาตนพร้อมกับแจ้งว่า น้องกร ลูกชายตนได้หายไปแล้ว เนื่องจากไม่ได้เป็นคนเลี้ยงดูเอง โดยหลังรับหลานไปอยู่ด้วยได้นำ น้องกรไปฝากเลี้ยงไว้กับ นางสาวพัชรี คนรู้จักข้างห้องเช่า ไม่นานก็มารู้ข่าวว่านางสาวพัชรีย้ายไปอยู่ที่ จ.ชลบุรี โดยพาน้องกรไปด้วยและไม่สามารถติดต่อได้แล้ว ตนรู้ข่าวลูกหายก็ตกใจมากจึงนัดให้นางสาวเกศวดีมาหาที่บ้านเพื่อจะพากันไปแจ้งความในวันรุ่งขึ้น 27 ม.ค. แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายนางสาวเกศวดีก็ไม่มา ตนจึงต้องไปแจ้งความคนเดียว

ภายหลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ประสานไปยัง พล.ต.ต.สมจิตร ทองแท่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย และ พ.ต.อ.สมชาย ชำนิ ผกก.สภ.สวรรคโลก เพื่อขอให้เร่งสืบหาตัว น้องกร ลูกชายของน.ส.ณัฐฐา ให้กลับมาสู่อ้อมกอดแม่โดยเร็ว เนื่องจากเกรงว่าคนที่พาน้องกรไปอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งลักเด็กและน้องกรจะได้รับอันตราย ทั้งนี้วันพฤหัสบดีที่ 8 ก.พ 61 เวลา 15.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จะได้พา น.ส.ณัฐฐา แม่ของน้องกร ไปพบกับ พ.ต.อ.สมชาย ชำนิ ผกก.สภ.สวรรคโลก เพื่อเร่งดำเนินการติดตามน้องกรกลับมาโดยเร็ว พร้อมทั้งฝากเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองข้อให้ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนที่จะนำลูกไปฝากใครเลี้ยง ขอให้เป็นคนที่เชื่อถือได้ และสามารถติดต่อได้ง่าย เพื่อป้องกันการสูญเสียจากกรณีดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook