“ปกติแล้วทุกปี วันที่ 4 ธันวาคม ป้าจะต้องไปที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วไปนั่งรอรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันพ่อทุกๆ ปี”

คำบอกเล่าจาก นางปราณี แซ่ว่อง หรือ ป้าณี ในวัย 70 ปี ผู้ที่เคยมารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว

เราได้พูดคุยกับเธอหลายครั้ง ช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯในหลวงรัชกาลที่ 9 ตอนนั้นเธอยังทำใจยอมรับไม่ได้ แต่ในวันพ่อปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 2 แล้วที่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม เธอบอกเราว่าเริ่มทำใจได้แล้ว และสิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิมสำหรับเธอคือ “ตั้งใจจะทำความดีให้มากขึ้น”

ป้าณี ในวัย 70 ปี ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช เมื่อ ตุลาคม พ.ศ. 2560

โดยตั้งแต่ที่มีนิทรรศการพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวง ป้าณีก็มาช่วยโรงทานทำอาหารทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางมาเข้าชมนิทรรศการ และตั้งแต่วันสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 (13 ต.ค.59) ป้าณีได้เข้าไปกราบพระบรมศพฯของพระองค์ ในพระบรมมหาราชวังหลายร้อยครั้ง แต่เธอไม่เคยคิดจะนับเป็นจริงเป็นจัง เพราะนึกเพียงแต่ว่าขอให้ได้เข้าไปกราบพระองค์ท่านในฐานะที่เกิดมาใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ก็พอ

ในวันที่พบกันป้าณีนำรูปพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้มาจากข่าวในหนังสือพิมพ์ติดตัวมาด้วย เพราะนี่ไม่ใช่ภาพข่าวธรรมดา แต่เป็นภาพที่มีเธออยู่ในนั้นด้วย

รวมหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ที่มีภาพป้าณี ขณะรอเฝ้ารับเสด็จในหลวง ร.9

ย้อนไปก่อนหน้านี้ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ป้าณีเดินทางมารอรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทราบว่าพระองค์ทรงพระประชวร เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มหน้าลานพระราชบิดา กลุ่มที่มาเฝ้ารอรับเสด็จที่โรงพยาบาลทุกครั้งที่พระองค์เสด็จมา

โดยจะรอรับเสด็จอยู่บริเวณหน้าลิฟต์ของอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นอาคารที่พระองค์ทรงประทับอยู่ที่ชั้น 16 และที่บริเวณลานพระราชบิดา ในโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นจุดที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 สามารถทอดพระเนตรลงมาจากห้องที่ประทับและเห็นลูกๆ ของพระองค์ได้

ป้าณีเล่าถึงเหตุการณ์ที่น่าประทับใจว่า วันหนึ่งพวกเราไม่ได้มานั่งตรงลานพระราชบิดา โรงพยาบาลศิริราช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีรับสั่งเรียกข้าราชบริพารมาถามว่า "ลูกๆ ของฉันไปไหน" นอกจากนี้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก็ยังทรงมีพระเมตตากับกลุ่มเป็นอย่างมาก ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาและมีพระราชกระแสรับสั่งว่า "จะกินนอนกันอย่างไร จะอยู่กันอย่างไร" หลังจากที่สมเด็จพระราชินีทราบว่าพวกเรากินอยู่กันตรงนั้น ก็พระราชทาน น้ำ ขนม และอาหาร มาให้อยู่เสมอ

และถึงแม้ว่าบ้านของป้าณีจะอยู่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และปีนี้ก็อายุ 70 แล้ว แต่ไม่เคยทำให้กำลังกาย และกำลังใจ ที่จะมาทำความดีลดลงเลย

ป้าณียังคงเดินทางด้วยรถสาธารณะ และนอกจากจะเดินทางมาช่วยทำอาหารที่โรงทาน เข้ากราบพระบรมศพหลายครั้ง และเป็นจิตอาสาที่สนามหลวงแล้ว ป้าณียังได้ไปเป็นจิตอาสาขุดลอกคูคลอง ตามโครงการหน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา "เราทำความดีด้วยหัวใจ" ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ด้วย

ป้าณีกล่าวทิ้งท้ายว่า “ตอนแรกยังทำใจไม่ได้ แต่ป้านึกถึงคำที่บอกว่า ให้พ่อไปพักผ่อนบ้าง ก็สบายใจขึ้น แล้วก็ตั้งใจทำความดี ตามรอยของพ่อ จนกว่าชีวิตนี้จะหมดแรง จนกว่าจะหมดลมหายใจเท่านั้นแหละ”

โดยในวันพ่อปีนี้ ป้าณีได้พาเพื่อนบ้านไปชมนิทรรศการพระเมรุมาศ ที่ท้องสนามหลวง เพื่อรำลึกถึงพ่อของแผ่นดินอันเป็นที่รักของคนไทยทุกคนด้วย

อัลบั้มภาพ 70 ปีไม่มีเหนื่อย ป้าณีขอทำความดีด้วยหัวใจ ภาพที่ 3 / 4

70 ปีไม่มีเหนื่อย ป้าณีขอทำความดีด้วยหัวใจ