กองทัพโต้แม้วป้องอนุพงษ์-สุรยุทธ์ไม่เกี่ยวปว.ผบ.ทบ.ไม่กลัวขู่-เพื่อนเนวินร้อนแนะรบ.รุกดีกว่ารับ

กองทัพโต้แม้วป้องอนุพงษ์-สุรยุทธ์ไม่เกี่ยวปว.ผบ.ทบ.ไม่กลัวขู่-เพื่อนเนวินร้อนแนะรบ.รุกดีกว่ารับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พัลลภ รับเล่าปว.จริง-ไม่มีลอบฆ่าทักษิณอาจฟังมาผิดๆหวาดระแวงตลอด สุรยุทธ์ชี้แม้วรับข้อมูลมั่วปฏิเสธไม่เคยเชิญ พล.อ.พัลลภไปหารือ จรัญ ขออย่าดึงเข้าไปเกี่ยวข้องโต้จับแพะชนแกะ นายกฯเมินแม้วรุกยันรบ.เดินหน้ามั่นใจรับมือแผนตากสินได้ บิ๊กกห.ให้แม้วรับผิดชอบคำพูด ทบ.ชี้ชิงพื้นที่ข่าวผลลบกับแม้ว ป้องอนุพงษ์-สุรยุทธ์ไม่เกี่ยวปว. ผบ.ทบ.ไม่กลัวขู่-สั่งทุกหน่วยเต็มที่เพื่อนเนวินแนะรบ.รุกดีกว่ารับ สุรยุทธ์ชี้แม้วรับข้อมูลมั่ว

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี นายจรัญ ภักดีธนากุล ต่างออกมาชี้แจงภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิงก์พาดพิงถึงกลุ่มบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สนามกีฬาสมโภช 700 ปีเชียงใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 มีนาคม ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในฐานะนายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้สัมภาษณ์หลังร่วมงานประชุมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องมหาวิทยาลัยกับคดีพิพาทในศาลปกครอง ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวพาดพิงเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ว่า คิดว่าเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด เพราะข้อมูลที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับอาจคลาดเคลื่อน ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมา ความจริงเป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ได้ เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม คิดว่าคนที่ทำอะไรต้องได้รับผลตอบแทนทั้งในทางที่ดีและไม่ดี

พล.อ.สุรยุทธ์ยังปฏิเสธว่าไม่เคยเชิญ พล.อ.พัลลภไปหารือ และไม่ได้กังวลเรื่องที่ถูกพาดพิง และจะไม่ไปดำเนินการฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงคงไม่ไปขอร้องให้ยุติการพาดพิง เพราะเป็นหน้าที่ของแต่ละบุคคลที่จะสำนึกได้เอง

ทราบจากสื่อหนังสือพิมพ์ คิดว่าเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด เพราะข้อมูลที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับอาจเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมา ความจริงเป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ได้

เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม คิดว่าคนที่ทำอะไรต้องได้รับผลตอบแทนทั้งในทางที่ดีและไม่ดีส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์ได้เชิญ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคง (รอง ผอ.รมน.) ร่วมวางแผนโค่นล้มระบอบทักษิณนั้น ผมไม่เคยเชิญ พล.อ.พัลลภไป อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังในส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง ข้อมูลอย่างที่เรียนคือควรจะมีการตรวจสอบ ส่วนจะมีการเข้าใจผิดว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารนั้น ผมไม่ได้กังวล อย่างที่ได้เรียนแล้วว่าความจริงจะต้องปรากฏออกมา และคงจะไม่ไปดำเนินการฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงคงไม่ไปขอร้องให้ยุติการพาดพิง เพราะเป็นหน้าที่ของแต่ละบุคคลที่จะสำนึกได้เอง

โดยส่วนตัวเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม หากใครทำดีหรือไม่ดีจะได้รับผลจากการกระทำนั้นเอง ส่วนสถานการณ์การเมือง และการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะดำเนินการ หรือแสดงความเห็นอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องจะเป็นเป็นผู้ดูแล

พัลลภ รับเล่าปว.จริง-ไม่มีลอบฆ่า

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับเคยเล่าเรื่องเบื้องหลังปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ให้ พ.ต.ท.ทักษิณฟังจริงว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนในการปฏิวัติ แต่ไม่มีเรื่องแผนการลอบสังหารแต่อย่างใด ซึ่งในเวลานั้นตนได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมโดยมี พล.อ.ส. เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีความเห็นพ้องกันว่าควรจะต้องทำการยึดอำนาจรัฐบาล เพราะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความจงรักภักดี แต่ยืนยันว่าไม่มีแผนลอบสังหาร ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณอาจนำข้อมูลจากที่อื่นมาพูดผสมกับสิ่งที่เคยเล่าให้ฟังจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะพ.ต.ท.ทักษิณหวาดระแวงเรื่องลอบสังหารมาตลอด ในช่วงก่อนปฏิวัติมีเพียงแต่คิดแผนการจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น แต่ในที่สุดไม่ได้นำแผนนี้มาใช้ แต่เลือกใช้จังหวะที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปต่างประเทศจึงทำการปฏิวัติยึดอำนาจในช่วงนั้น

ผมรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆ พ.ต.ท.ทักษิณ นำเรื่องนี้ขึ้นมาพูด แต่ยอมรับว่าผมเคยเล่าเรื่องเบื้องหลังของการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ให้ฟังจริงว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนในการปฏิวัติ แต่ไม่มีเรื่องแผนการลอบสังหารแต่อย่างใด เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อมีการปฏิวัติต้องมีคนมานั่งประชุมวางแผนกัน ซึ่งในเวลานั้นผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมโดยมี พล.อ.ส. เข้าร่วมประชุม ซึ่งในที่ประชุมมีความเห็นพ้องกันว่าควรจะต้องทำการยึดอำนาจรัฐบาล เพราะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความจงรักภักดี

ตอนนั้นเราคุยกันว่าเราจะทำเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ที่สุดก็ได้ตำแหน่งกันหมด แต่ผมไม่ได้อยากเป็นอะไร และเห็นว่าไม่ถูกต้องที่ปฏิวัติแล้วหวังประโยชน์จนทำให้การปฏิวัติไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้

ผมยืนยันว่าไม่มีแผนลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณอาจนำข้อมูลจากที่อื่นมาพูดผสมกับสิ่งที่ผมเคยเล่าให้ฟังจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะพ.ต.ท.ทักษิณหวาดระแวงเรื่องลอบสังหารมาตลอด ในช่วงก่อนปฏิวัติมีเพียงแต่คิดแผนการจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น แต่ในที่สุดไม่ได้นำแผนนี้มาใช้ แต่เลือกใช้จังหวะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศจึงทำการปฏิวัติยึดอำนาจในช่วงนั้น

เมื่อครั้งเดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศจีน พ.ต.ท.ทักษิณได้ถามเรื่องคาร์บอมบ์ ซึ่งยืนยันว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องน่าจะเป็นความเข้าใจผิด เพราะในช่วงนั้น พ.ต.ท.ทักษิณไม่พอใจที่ตนส่งทหารไปดูแล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จึงคิดว่าเป็นพวกของ พล.ต.จำลอง แต่ขณะนั้นผมทำไปเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ พล.ต.จำลองเท่านั้น เพราะหากเขาเป็นอะไรไป พ.ต.ท.ทักษิณจะเสียหาย ซึ่งคราวที่ผมได้ไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ คุยแต่เรื่องนี้เท่านั้น ไม่ได้คุยเรื่องอื่น

จรัญ ขออย่าดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง

ด้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขอยืนยันยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์เลยว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดนั้นเพ้อเจ้อ หรือมีการบอกว่าจะขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ซึ่งได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ส่วนจะชี้แจงถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวหาหรือไม่นั้นมันไม่เสียอะไรผมหรอก แต่อย่าให้ผมไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ด้วยเลย และขอไม่พูดถึงสิ่งที่ถูกกล่าวหาปล่อยเขาไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวอ้างว่านายจรัญให้สัมภาษณ์หาก พ.ต.ท.ทักษิณเอ่ยชื่อกันแบบนี้ ก็อาจต้องพูดอะไรบ้าง แตขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนว่าในฐานะผู้พิพากษา สมควรตอบโต้อะไรหรือไม่ ส่วนที่ผ่านมานั้น ดูเหมือนเป็นการจับแพะชนแกะ ถือเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ

ยังไม่ทราบรายละเอียดถึงข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวหามายังผมด้วย จึงยังไม่อยากให้สัมภาษณ์ไป ขอยืนยันว่ายังไม่ได้ให้สัมภาษณ์เลยว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดนั้นเพ้อเจ้อ หรือมีการบอกว่าจะขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ซึ่งผมก็ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ไปแล้ว

โดยส่วนตัวจะชี้แจงถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวหาหรือไม่นั้น มันไม่เสียอะไรผมหรอก แต่อย่าให้ผมไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ด้วยเลย และขอไม่พูดถึงสิ่งที่ถูกกล่าวหาปล่อยเขาไป

(อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้วันเดียวกัน 23 มีนาคม มีรายงานข่าวแจ้งว่านายจรัญ ภักดีธนากุล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวดังกล่าวว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ เอ่ยชื่อกันแบบนี้ ก็อาจต้องพูดอะไรบ้าง แต่ขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนว่าในฐานะผู้พิพากษา สมควรตอบโต้อะไรหรือไม่ ส่วนที่ผ่านมานั้นดูเหมือนเป็นการจับแพะชนแกะ ถือเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ)

นายกฯเมินแม้วรุกยันรบ.เดินหน้า

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณโจมตีองคมนตรีว่า รัฐบาลก็คงจะดูแลว่าหากอะไรผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการ ที่ผ่านมาก็มีการพาดพิง ซึ่งได้บอกไปแล้วว่าให้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองเท่านั้น อย่าเอาสถาบันอื่น โดยเฉพาะสถาบันที่ประชาขนเทิดทูนเคารพนับถือเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่า ประเมินการรุกของ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดในเรื่องนี้ ให้ความสนใจกับงานที่ทำมากกว่า เพราะมีหน้าที่แก้ไขปัญหาให้กับประเทศ ส่วนปัญหาของคนหนึ่งคนก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า ในวันที่ 26 มีนาคม จะมาทำงานที่ทำเนียบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ผมตั้งใจที่จะมาทำงานตามปกติทุกอย่าง ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวภายใต้กรอบของกฎหมาย รัฐบาลไม่สามารถไปสกัดกั้น แต่ก็พยายามลดเงื่อนไขการชุมนุม แต่บางเรื่องก็ยอมรับว่าจะให้เห็นตรงกันไม่ได้ เช่น อยากไล่ผมออกจากตำแหน่ง ความเห็นย่อมไม่ตรงกันแน่นอนเพราะผมยืนยันว่าจะทำงานต่อไป

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ทั่วไปและผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่รัฐบาลยังทำงานได้ และหลายฝ่ายก็มองว่าเสถียรภาพของบ้านเมืองไม่ได้มีปัญหาอะไร รัฐบาลพยายามไม่เข้าไปอยู่ในวังวนแห่งความแตกแยก จึงไม่ไปต่อปากต่อคำ หรือต่อล้อต่อเถียง ที่ผ่านมาการนโยบายและการปฏิบัติก็เดินหน้าไปได้กับคนส่วนใหญ่ ไม่ได้มีปัญหา ส่วนคนอีกส่วนที่ยังมีความข้องใจ รัฐบาลก็พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่เขากังวลไม่เป็นจริง และให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้องต่างๆ

มั่นใจรับมือแผนตากสินได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าความแตกแยกระหว่างคนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดงนั้น ดำรงมาหลายปีแล้ว เพียงแต่ในรอบปีที่ผ่านมามีความรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นปะทะกันและมีการทำผิดกฎหมาย รัฐบาลจะไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นอีก แต่ก็เคารพในสิทธิเสรีภาพของทุกสี เมื่อถามว่า ดูเหมือนรัฐบาลจะไม่เด็ดขาดกับการแก้ไขปัญหาต่างๆ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความเด็ดขาดไม่ได้มีปัญหา แต่ถ้าเป็นเรื่องความผิดคดีอาญาที่การสืบสวนสอบสวนหรือส่งฟ้องจะต้องไม่มีข้อสงสัย หากการใช้ความเด็ดขาดถูกตีความว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ก็จะยิ่งจะเป็นการไปเติมเชื้อและนำไปสู่ความขัดแย้งได้

เมื่อถามว่า มั่นใจว่ารับมือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยเฉพาะแผนตากสินได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มั่นใจว่ารับมือได้ เพราะผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศเดินหน้า ใครที่พยายามฉุดรั้งบ้านเมืองจะไม่ได้รับการสนับสนุน

สุเทพ ชี้ชัดมุ่งสร้างวุ่นวาย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการของคนกลุ่มนี้มีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่เคยเพิกเฉย แต่กฎหมายมีข้อจำกัดทำอะไรไม่ได้มาก ใครเสียหายสามารถดำเนินการฟ้องร้องได้ คงไปเรียกร้องอะไรให้เขายุติการกล่าวพาดพิงองคมนตรีและศาลไม่ได้ เพราะมีเจตนาชัดว่าต้องการให้คนในประเทศเข้าใจผิดเพื่อปลุกระดมประชาชน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณพยายามโจมตีบุคคลที่อยู่สูงกว่านี้ คนไทยทั้งประเทศก็ต้องช่วยกันพิจารณาสถานการณ์ ส่วนเจรจากับผู้ชุมนุมนั้น คงเป็นไปได้ยาก

บิ๊กกห.ให้แม้วรับผิดชอบคำพูด

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณพาดพิงสถาบันเบื้องสูง ว่า เรื่องตัวบุคคลต้องว่าต่อไป เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณกล้าเอ่ยนามยืนยันแสดงว่าคงจะรู้อะไร และต้องรับผิดชอบในคำพูด ประชาชนจะต้องรู้และมีวิจารณญาณว่าอะไรที่ควรจะเชื่อ และอะไรที่ไม่ควรเชื่อ ขณะนี้ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า รัฐบาลพยายามจะแก้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีพยายามทำงานหนักอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงการตรวจสอบแผนตากสินที่จะล้มรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อย่าให้ต้องวิจารณ์เพราะไม่รู้ว่าใครเขียน ต้องดูว่าเป็นไปตามนั้นหรือไม่ เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยออกมาโต้ว่าฝ่ายความมั่นคงเป็นคนเขียนเองเพื่อของบประมาณไปใช้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่จริง จะไปเขียนทำไม ไม่มีใครเขียน กองทัพมีกฎระเบียบชัดเจน ฝากสื่อช่วยให้เกิดความเป็นธรรมในสังคมด้วย

รบ.สั่งทุกหน่วยจับตาใกล้ชิด

ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดูการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณช่วงหลังมีความหมิ่นเหม่มากและยิ่งชัดเจนเมื่อมีเจตนาพาดพิงสถาบันมากขึ้น โดยเฉพาะการระบุชื่อองคมนตรี และคนในกระบวนการยุติธรรม การพูดจาลักษณะนี้ต้องถามหาความรับผิดชอบของคนพูด สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดไม่ใช่เสียหายเฉพาะคนที่เอ่ยถึง แต่เสียหายถึงสถาบันด้วย และโพลก็ระบุชัดเจนว่าความนิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณตกต่ำลงมาก เชื่อว่าหน่วยงานต่างๆ จะเข้าดูการโฟนอินอย่างใกล้ชิด และระมัดระวัง เพราะประชาชนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลอยากลดดีกรีความรุนแรงหลีกเลี่ยงการปะทะทั้งหมด แต่ดูเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่หยุด จึงต้องพูดขอร้องบ่อยๆ จนคนส่วนหนึ่งเริ่มรู้สึกว่ารัฐบาลไม่เด็ดขาด แต่การเด็ดขาดต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดเข้มข้นติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม ให้เน้นประชาสัมพันธ์บอกประชาชนว่าไม่มีประโยชน์ที่จะเดินทางเข้ามา ทั้งเสียเวลาและค่าเดินทาง

ทบ.ชี้ชิงพื้นที่ข่าวผลลบกับแม้ว

เวลา 18.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณวิดีโอลิงค์พาดพิงกองทัพว่าเข้าไปเกี่ยวข้องการลอบสังหารและการปฏิวัติวันที่ 19 กันยายน 2549 ว่า ทั้ง 2 เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องคดีลอบสังหารเป็นเรื่องตำรวจต้องหาข้อเท็จจริง ขณะนี้ทุกคนติดตามกันอยู่ และกองทัพไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการปฏิรูปการปกครอง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. เคยชี้แจงแล้วว่าคิดกับฝ่ายเสธ.ของท่านเพียง 2-3 คนเท่านั้น ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ดังนั้น 2 เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน

การโฟนอินเป็นการแย่งชิงพื้นที่ข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งท่านทำได้ แต่ต้องมองว่าสิ่งที่ปรากฏออกมาประชาชนได้รับทราบข้อมูลแล้ว มีความคิดเห็นอย่างไร มุมมองของกองทัพมองว่าน่าจะส่งผลในทางลบต่อตัวท่านเองมากกว่าเพราะขัดกับข้อเท็จจริง ผมไม่อยากให้ไปดูหมิ่นความคิดเห็นของประชาชน แต่นานวันเมื่อข้อมูลมีมากขึ้นประชาชนจะสามารถวิเคราะห์ได้เองว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ป้องอนุพงษ์-สุรยุทธ์ไม่เกี่ยวปว.

พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า กองทัพไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร ซึ่ง พล.อ.พัลลภ ก็พูดเองว่าไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ เป็นการผูกโยงกันเอง ลองคิดง่ายๆ ว่า การลอบสังหารกับการปฏิรูปการปกครองสิ่งไหนง่ายกว่ากัน กองทัพไม่เคยมีความคิดลอบสังหารไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด ขอยืนยันว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวางแผนการปฏิวัติ ยืนยันได้ 100% ว่า ผบ.ทบ.ไม่เคยมีการพูดคุยกันเรื่องวางแผนปฏิวัติกับ พล.อ.สุรยุทธ์

เมื่อถามว่า พล.อ.อนุพงษ์จะดำเนินการอย่างไรกับสิ่งที่ถูกพาดพิง พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ต้องตรวจสอบ แต่หากจะมุ่งแต่เรื่องคดีความคงไม่เกิดประโยชน์อะไร หลายคนพยายามผูกโยงกองทัพกับเรื่องการเมือง ทุกฝ่ายต้องใช้วิจารณญาณ และความอดทน และอยากฝากวิงวอนว่าวันนี้บ้านเมืองต้องการความรัก ความสามัคคีให้มากในช่วงที่ยังอยู่ในช่วงวิกฤต ถ้าทุกคนพยายามพูดไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ อย่างน้อยก็มีส่วนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

ผบ.ทบ.ไม่กลัวขู่-สั่งทุกหน่วยเต็มที่

สำหรับแผนตากสิน ผบ.ทบ.ได้ให้ฝ่ายเสนาธิการไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วว่าสอดคล้องหรือเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ผบ.ทบ.สั่งการกำชับกับทุกหน่วยว่าขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่บนพื้นฐานของการดูแลความมั่นคงและผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่ ผบ.ทบ.ยังไม่ได้ยอมรับว่ามีแผนตากสิน

พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น กองทัพไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ทหารคงปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม และใช้แผนเดิม เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณขู่จะนำเอกสารลับมาเปิดเผย โดยเฉพาะการที่ทหารเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ไม่ว่าจะถามตน ผบ.ทบ. หรือนักการเมืองที่ได้มาปรึกษาหารือกับท่าน ทุกคนต้องตอบแบบนี้ ข้อเท็จจริงพิสูจน์ได้อยู่แล้ว ยืนยันได้ว่าไม่มีคลิปวิดีโอในการสนทนาหารือในการจัดตั้งรัฐบาล และ ผบ.ทบ.ไม่ใช่คนมีบาดแผล จึงไม่ต้องกลัวคำขู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ปชป.วอนพท.ประสานเสื้อแดง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า มีความพยายามจะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล โดยการสร้างอุปสรรค 2 ประการ 1.การขับเคลื่อนการเมืองนอกสภา 2.การลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยในสายตาชาวโลกนำโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินสายพบสื่อต่างประเทศ โจมตีกระบวนการยุติธรรม และสถาบันตุลาการ เพื่อให้ตนเองกลับมาอยู่เหนือกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์จะไปพบฝ่ายค้านหารือแนวทางการปฏิรูปการเมือง หวังว่าฝ่ายค้านจะเปิดช่องให้มวลชนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองเข้ามาช่วยกันแก้วิกฤตประเทศ อยากเรียกร้องให้ฝ่ายค้านประสานไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณมาสู่กระบวนการปฏิรูปการเมือง และยอมรับว่าไม่มีใครจะอยู่เหนือกฎหมาย

เพื่อนเนวินแนะรบ.รุกดีกว่ารับ

ด้านนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า เคยเสนอแนะกับที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ว่าให้รัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อรับมือการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้เริ่มรุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น สิ่งที่รัฐบาลจะทำได้คือทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนต้องลงพื้นที่ถี่ขึ้นกว่าเดิม เพื่อชี้แจงกับประชาชนทุกเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินมา ดีกว่าจะตั้งรับอยู่ในที่ตั้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะลดน้ำหนักคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณลงเรื่อยๆ ไม่ใช่บริหารแบบกลัวๆ กล้าๆ จนไม่กล้าไปไหน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook