หมดหนทาง! พ่อเลี้ยงอุ้มเด็กหญิงแจ้งความ เมียหนีทิ้งลูกติดไว้ให้

ชายวัย 55 ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ เมียหนีไปกับผู้ชายทิ้งลูกติดจากผัวเก่าไว้ วอนสถานสงเคราะห์ช่วยรับไปดูแล เพราะหาเลี้ยงทั้งลูกตัวเองและลูกติดไม่ไหว

(4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐิติโชค อายุ 55 ปี เดินเท้ากว่า 5 กิโลเมตร เข็นรถเข็นเด็กหอบลูกสาววัย 2 ขวบเศษ และเด็กหญิงหวาน (นามสมมติ) วัยขวบเศษ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังเกิดอาการเครียดไม่มีเงินเลี้ยงเด็กหญิงทั้งสองคน โดยแจ้งว่านางสาวเจนจิรา อายุ 24 ปี ภรรยาของตน ได้ทิ้งภาระไว้ให้ โดยเด็กหญิงหวานเป็นลูกจากสามีอีกคน ส่วนนางสาวเจนจิรา หายหน้าไปกว่าอาทิตย์ไม่สามารถติดต่อได้ จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ติดต่อแม่ของเด็ก หรือสถานสงเคราะห์ช่วยรับเด็กไปเลี้ยง 1 คน เพราะไม่มีเงินและไม่มีปัญญาเลี้ยง

นายฐิติโชค ให้การว่า เมื่อปีที่แล้วตนเองได้กลับไปอยู่บ้านที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยได้พาลูกสาววัย 2 ขวบเศษไปด้วย เนื่องจากภรรยาได้ทิ้งตนเองไปมีครอบครัวใหม่ กระทั่งเมื่อไปอยู่ที่ อุตรดิตถ์ก็พบกับนางสาวเจนจิรา และทราบว่าได้เลิกรากับสามีพร้อมทั้งมีลูกเล็กติดมาด้วย 1 คน แต่ก็ได้ตกลงปลงใจที่จะอยู่กินกัน จึงได้พามาอยู่ที่บ้านพัก ที่ จ.ปทุมธานี ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงแรกๆ ตนเองให้เมียเป็นแม่บ้าน ดูแลลูกทั้งสองคน ส่วนตนเองออกไปรับจ้างขับรถแท็กซี่ เพื่อหารายได้ให้ครอบครัว

แต่ระยะหลังพบว่านางสาวเจนจิรามักจะเล่นเฟชบุ๊ก เล่นอินเตอร์เน็ตบ่อยครั้ง กระทั่งจับได้ว่ามีการติดต่อกับชายอื่นและหนีออกจากบ้านไป ตนเองจึงต้องรับภาระเลี้ยงลูกทั้งสองคน และต้องหยุดขับรถแท็กซี่รับจ้าง เพราะไม่มีใครดูแลลูก ต่อมานางสาวเจนจิราได้ขอกลับมาอยู่ด้วยอีก เพราะมีปัญหากับชายหนุ่มที่มาติดพันจึงได้ขอกลับมาอยู่ด้วย แต่ก็เกิดปัญหาอีกครั้ง ล่าสุดนางสาวเจนจิราได้หนีออกไปและติดต่อไม่ได้อีกเลย ตนเองเกิดอาการเครียดมาก เนื่องจากไม่มีเงินซื้อนม ซื้อของใช้ให้ลูกทั้งสอง เพราะไม่มีรายได้เข้ามา จึงได้หอบลูกเข้าขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นผู้สื่อข่าว ได้ช่วยพาไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ศูนย์ประชาบดี จ.ปทุมธานี เพื่อหาแนวทางเข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องปัญหาไว้ เพื่อเตรียมประสานทางบ้านพักเด็กเพื่อให้รับเด็กไปช่วยดูแลชั่วคราวก่อน ซึ่งจะได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของบ้านเพื่อจัดทำเอกสารในการส่งตัวเด็กให้อยู่ในความดูแลของบ้านพักต่อไป ส่วนทางด้านแม่ของเด็กจะได้สืบจากทะเบียนราษฎร์เพื่อติดต่อหาญาติทางฝั่งแม่ของเด็กเพื่อให้มาทราบเรื่องและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป