เหรียญด้านที่สองของประชาคมอาเซียน(ตอนที่ 3)ตอน พลังประชาสังคม:พลังขั้วที่สามแห่งเวทีอาเซียน

เหรียญด้านที่สองของประชาคมอาเซียน(ตอนที่ 3)ตอน พลังประชาสังคม:พลังขั้วที่สามแห่งเวทีอาเซียน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 14 จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนนี้ ภาคประชาสังคมและองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดเวทีคู่ขนาน ในชื่องาน "มหกรรมประชาชนอาเซียน (ASEAN People Forum)เพื่อหารือ ประเด็นปัญหาที่คนอาเซียนคาดหวังก่อนจะรวบรวมและสรุปมอบให้ 11 ตัวแทนยื่นต่อผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนในวันเปิดประชุม โดยช่วงระหว่างวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มีการจัดประชุมร่วมกันในลักษณะกลุ่มย่อย กลุ่มแรก ถกเรื่องสันติภาพและความมั่นคงของมนุษย์ ความมั่นคงของประชาชนในภูมิภาคอาเซียน กลไกเรื่องการจัดตั้งสิทธิมนุษยชนในอาเซียน ที่มีการถกเถียงกันมานานว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร กลุ่มที่สอง ถกเรื่องของสังคมวัฒนธรรม ที่เป็นเสาสำคัญของอาเซียน มีการพูดถึงเรื่องสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ การจัดสรรทรัพยากรในอาเซียน ประเด็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ และ กลุ่มที่สาม ถกเรื่องเศรษฐกิจ วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตด้านการเงิน วิกฤตทางอาหาร และข้อตกลงทางการค้า จะกระทบต่อประชาคมอาเซียนอย่างไร เสียงสะท้อนส่วนหนึ่งจากภาคประชาชนต่อเวทีอาเซียน - กลุ่มแรงงาน น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) บอกว่า ความคาดหวังของภาคแรงงานอาเซียนคือ ความมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมา เห็นว่า ประเด็นปัญหาความยากจน รัฐบาลมักมองข้าม โดยไม่เคยนำไปบรรจุในการประชุมพูดคุยหารือ กลับพูดแต่เรื่องการลดภาษี การอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนจึงอยากเรียกร้องสิทธิในการรวมตัวของกลุ่มแรงงาน ที่เปรียบเสมือนฟันเฟืองของเครื่องจักรที่สำคัญ แต่ถูกเพิกเฉยสิทธิตลอดมา ขณะที่สิทธิของกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่พึงจะได้ ในเรื่องของความปลอดภัยในการทำงาน คุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานไม่เคยมีการนำไปหารือ จึงอยากฝากรัฐบาลรับไปเจรจากับผู้นำในเวทีอาเซียนที่เป็นเวทีระหว่างประเทศขอให้บรรจุเอาไว้ในการประชุมร่วมบันทึกเป็นข้อตกลงร่วมประเทศอาเซียน "การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ขออย่าเป็นแค่เวทีวาทกรรมของเหล่ากลุ่มผู้นำ ในส่วนของภาคประชาชนในด้านของกลุ่มผู้แรงงานที่มีทั้งแรงงานในระบบ นอกระบบ และแรงงานข้ามชาติ ที่ผ่านมาในการประชุมอาเซียนไม่เคยพูดถึงสวัสดิการเกี่ยวกับสิทธิในการรวมตัวกันกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ถูกละเมิด นอกจากนี้ ยังมีเสียงสะท้อนจากผู้จัดการโครงการมูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท บอกว่า แรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่มาจากประเทศพม่า เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ ทั้งนี้ แรงงานพม่าเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานต่างด้าว ที่ต้องเดินทางข้ามพรมแดนไปมาระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อหางานในประเทศที่มีฐานะร่ำรวยกว่า เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ซึ่งในไทย แรงงานพม่ามักได้งานในภาคเกษตรกรรม โรงงานทอผ้า แหล่งก่อสร้าง ประมง และการผลิตอาหารทะเล ส่วนแรงงานหญิงจะเป็นแม่บ้าน จากรายงาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่ออกมาเมื่อ 2 ปีก่อน แรงงานพม่าสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจไทย ถึง 10,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 300,000 กว่าล้านบาท - กลุ่มเยาวชน นายเสรี นาคสัมพันธ์ กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์ กล่าวว่า กลุ่มยุวชนอยากยื่นข้อเสนอให้รัฐได้เปิดพื้นที่ให้กับเยาวชนทุกกลุ่ม ได้เข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในเวทีอาเซียน ไม่ใช่แค่เพียงหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้ง พลังประชาสังคม : พลังขั้วอำนาจที่สาม ในเวทีภาคประชาสังคมวานนี้ (22ก.พ.) ที่หอประชุมอาคารมหิตลาธิเบศร์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ได้เดินทางมาเพื่อพบปะ พูดคุย และร่วมรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาสังคมอาเซียน โดยนายกษิต ภิรมย์ ให้ความเห็นเรื่องภาคประชาสังคมของประเทศไทยว่า ที่ผ่านมาภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมอย่างมากทั้งการพัฒนาทางสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมือง สิ่งที่เกิดในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมามีความสำคัญ เพราะกฎบัตรอาเซียนมีการประกาศใช้ สำหรับภาคประชาสังคมในการเข้ามีส่วนร่วมในอาเซียนนั้นควรจะเกิดขึ้น แต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและรูปธรรมที่ดีมากขึ้น ก็คงจะขึ้นอยู่กับประชาสังคมนั้นๆ "ในประเทศไทย งานในส่วนภาคของประชาสังคมนั้นมีความชัดเจนและได้รับการส่งเสริมตามรัฐธรรมนูญที่ระบุเอาไว้ 8 อาทิตย์ที่ผ่านมาในการประชุมของรัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีกำหนดหลักการ 9 ประการสำหรับทุกกระทรวง หนึ่งในนั้นคือการจะต้องทำงานกับประชาสังคม อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ย้อนกลับไปสิบห้าปีที่ผ่านมา ไทยมีพัฒนาการทางประชาธิปไตยไปมาก ถึงแม้ว่าจะมีบางครั้งที่ทหารออกมาแต่เรายังเห็นปรากฏการณ์ที่ดีที่ยังมีการคืนอำนาจให้ประชาชนและภาคประชาสังคมได้ทำงานอย่างเต็มที่และกลายเป็นขั้วอำนาจที่สามในการพัฒนาประเทศขึ้นมา ในส่วนของการเมืองหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีสิ่งใหม่ในสังคมคือมีประชาสังคมกลายเป็นพลังขั้วที่สาม พลังใหม่ในสังคมไทย เป็นพลังทางการเมืองที่ช่วยกำหนดบทบาทให้กับประเทศ และรัฐกลายเป็นผู้ทำงานตามเท่านั้น ฉะนั้นขอให้ทุกคนมั่นใจว่ารัฐจะส่งเสริมบทบาทของภาคประชาสังคมอย่างเต็มที่ในการพัฒนาประเทศและภูมิภาคอาเซียน เราจะทำงานกับเอ็นจีโอ มูลนิธิ และภาคประชาสังคมต่างๆ นี่คือคำมั่นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับเวทีภาคประชาสังคม ขณะที่ นาย.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวในประเด็น กฎบัตรอาเซียนที่เริ่มออกมาบังคับใช้แล้วเมื่อ 15 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา ซึ่งในเนื้อหาของกฎบัตรมีการระบุถึงการเปิดพื้นที่ให้กับประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างมาก และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผล ที่ภาคประชาชนมารวมตัวกันและจัดงานมหกรรมประชาชนอาเซียนครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 แล้ว อีกทั้งการพูดคุย การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนก็อยู่ในหลักการ เป็นหนึ่งเสาหลักในสามเสา อันได้แก่ สังคม-วัฒนธรรม ซึ่งเป็นส่วนชี้วัดว่าอีกสองเสา คือ ความมั่นคงทางการเมือง และทางเศรษฐกิจจะล้มเหลวหรือสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของประชาชนนั่นเอง จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาคประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วม แบ่งปัน ช่วยเหลือและร่วมกำหนดพื้นที่นี่ให้เป็นพื้นที่ดีของประชาคมอาเซียน อย่างไรก็ตาม กฎบัตรนี้เป็นแค่มาตรา หลักการ แนวทาง กรอบการทำงานซึ่งเป็นเสมือนโครงกระดูกเท่านั้น แต่เราจะต้องทำให้กฎบัตรมีชีวิตขึ้นมา แต่การที่จะทำให้วิสัยทัศน์ ความมุ่งหมายของอาเซียนเดินหน้าและประสบความสำเร็จได้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนคนอาเซียน จึงอย่าได้ตำหนิข้าราชการ หรือผู้นำหากอาเซียนมีปัญหา แก้ไขปัญหาไม่ได้ เพราะพื้นที่เปิดให้ประชาชน ที่เป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าอาเซียนแล้ว ได้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ ทำให้อาเซียนรับผิดชอบต่อประชาชนทุกคนได้ ภายใต้การนำของผม ตลอดเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งนี้ ผมจะให้มีสำนักเลขาธิการอาเซียนจัดตั้งเครือข่ายที่ประชาชนอาเซียนทุกคน ทั้งในภาคเอกชน ในภาคประชาชนสามารถเข้าถึงได้ โดยใช้สื่อต่างๆ ผมจะใช้ทุกวิธีการ เพื่อเข้าถึง ปัญหาคือพวกคุณจะยื่นมือมาหาพวกเราหรือไม่ด้วย นอกจากนี้ เลขาธิการอาเซียน ยังกล่าวถึงพัฒนาการของอาเซียนเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกา ที่นับแต่วันที่สหรัฐฯ ประกาศเป็นเอกราช จากวันนั้นถึงวันนี้ต้องใช้เวลาถึง 200 ปี เป็นระยะที่ยาวนานที่พูดถึงหลักการสิทธิเสรีภาพของประชาชน กว่าที่บารัค โอบามาจะได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันนี้ กล่าวคือ เพื่อความเป็นสุขของประชาชนชาวอาเซียนเอง ก็ต้องร่วมกันต่อสู้มาให้ได้ ทั้งนี้ ประชาคมอาเซียนก็ต้องการสติปัญญา ทรัพยากร พลังของภาคประชาสังคมด้วย มิฉะนั้นอาเซียนก็คงเดินหน้าทำงานต่อไปไม่ได้ คำกล่าวในเวทีภาคประชาสังคมของตัวแทนคณะทำงานจากเวทีอาเซียน คือ ประธานอาเซียน และเลขาธิการอาเซียนครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในสัญญาณที่จะสร้างความอุ่นใจและมั่นใจให้ภาคประชาสังคมได้บ้างแล้วว่า กฎบัตรและอาเซียนจะใส่ใจประชาชนอย่างแท้จริงและมากขึ้น หากแต่ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการของอาเซียน ในการสร้างประชาคมอาเซียนขึ้นมา ท่ามกลางความหลากหลาย และต้องไม่ลืมว่ากฎบัตรนี้เขียนขึ้นมาเพื่อคน 570 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอาเซียนจะยึดหลักนิติธรรม หลักยุติธรรม หลักธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชนซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน ชุติมา สุขวาสนะ เรียบเรียง ชูชาติ เทศสีแดง บรรณาธิการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล