เหรียญด้านที่สองของประชาคมอาเซียน (1)

เหรียญด้านที่สองของประชาคมอาเซียน (1)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
การจัดการประชุมอาเซียน ครั้งที่ 14 ที่จะจัดขึ้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้เข้ามาทุกขณะ ในขณะที่การเตรียมความพร้อมด้านบริบทของการประชุมก็เข้มข้นขึ้นด้วยเช่นกัน แม้ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ จะถูกพูดถึงในแง่ของกรอบความร่วมมือระหว่างภูมิภาคมากที่สุด และประเด็นที่ถูกจับตามองคงหนีไม่พ้นเรื่องของความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน หากแต่อีกมุมหนึ่งของภาคประชาชน ต่างมีการเคลื่อนไหวผ่านทางเวทีคู่ขนาน เพื่อเรียกร้องถึงสิทธิภาคประชาชนที่มุ่งหวังให้เสียงของพวกเขาจะได้ถูกพูดถึงในอาเซียนด้วยเช่นกัน ภาคประชาสังคมและองค์กรพัฒนาเอกชน ได้ร่วมกันจัดเวที "มหกรรมประชาชนอาเซียน (ASEAN People Forum) ซึ่งเป็นเวทีคู่ขนานกับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ระหว่างวันที่ 16-28 ก.พ.นี้ เพื่อนำเสนอข้อเสนอแนะจากภาคประชาชนสู่รัฐบาลอาเซียนนานาประเทศ เนื่องจากมีการมองว่าเวทีอาเซียนในปัจจุบัน เป็นการดำเนินงานโดยรัฐฯ เป็นหลัก โดยมีองค์กรของรัฐฯ จากนานาๆ ประเทศเข้าร่วม แม้กระทั่งการสร้างกฏบัตรอาเซียนเองก็ดีที่ถูกมองว่า เป็นการสร้างโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีความผูกพันธ์เป็นกฎหมายร่วมระหว่างประเทศ และจะผูกพันธ์ประชาชนร่วมด้วย ทั้งภาคการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม หากแต่การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนยังถูกมองว่ามีน้อยเกินไป!!!! ทำให้เวทีคู่ขนานเป็นเวทีการระดมความคิดเพื่อสะท้อนเสียงจากประชาชนในทางออกของปัญหาต่อกลุ่มอาเซียน บทบาทของภาคประชาชนที่ถูกมองข้าม นางชนิดา จรรยาเพศ ผู้ประสานงานโครงการศึกษาและปฏิบัติการงานพัฒนา (Focus on the Global South) กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมว่า เหตุที่ประชาชนออกมาแสดงเสียงของตน เนื่องจากมองว่าประชาคมอาเซียนในปัจจุบัน ไม่มีการระบุหน้าที่และการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่ชัดเจนว่าประชาชนสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างไรบ้าง แต่มุ่งในการให้ประชาชนเป็นผู้รับผลของการเข้าร่วมเพียงอย่างเดียว อีกประการคือประเด็น การทำงานร่วมภายใต้ความแตกต่างของแต่ละประเทศ เช่น ด้านสิทธิของประชาชนที่ในแต่ละประเทศไม่เท่าเทียมกัน ทำให้มองว่าการเข้าร่วมของประชาคมอาเซียนต้องชัดเจนเรื่องความเท่าเทียมกันและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากขึ้น นางชนิดา ยกตัวอย่างปัญหาร่วมระหว่างอาเซียนที่เป็นประเด็นสำคัญในปัจจุบัน คือ ปัญหาแรงงานอพยพ ที่ปัจจุบันพบว่าประเทศไทยมีแรงงานอพยพมากถึง 2 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าแรงงานเหล่านี้อพยพมาจากในภูมิภาคอาเซียนด้วยกันเอง ประเด็นนี้จะมีการแก้ปัญหาอย่างไร? และจะมีคำตอบร่วมหรือความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างไร? ซึ่งในภาคประชาสังคมมองว่าการคุ้มครองสิทธิในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถทำได้จริง รวมถึงการที่รัฐบาลต่างๆ ในอาเซียนที่มีความแตกต่างกัน ในจุดนี้เองที่ภาคประชาสังคม มองว่า การแก้ปัญหาทั้งหมด ไม่อาจทำได้ภายใต้กลไกของรัฐเพียงหน่วยงานเดียวหากแต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากองค์กรร่วมภาคประชาชน องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ทำงานร่วมในระดับภูมิภาค รวมถึงฐานประชาชนอย่างแรงงาน เกษตรกร คนพื้นเมือง ที่ได้รับผลกระทบต่างๆ ด้วยเช่นกัน ประเด็นจากเวทีคู่ขนาน ผู้ประสานงานโครงการศึกษาและปฏิบัติการงานพัฒนา กล่าวว่า ประเด็นหลักที่จะเสนอคือ ประเด็นสิทธิมนุษยชน ที่กำลังพูดถึงมากรวมถึงประเทศไทยกำลังประสบปัญหา จึงจะมีการผ่านเวทีสัมมนาย่อยภายในอาทิตย์หน้านี้ว่า จะมีกลไกออกมาในรูปไหน นอกจากนี้เรื่องของเศรษฐกิจ ที่อาเซียนมีการมุ่งหมายทางการประชุมพื่อเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ปัญหาคือ การติดตามผลกระทบว่าจากการค้าและเศรษฐกิจร่วมว่าจะมีผลต่อประชาชนเช่นไรเป็นสิ่งที่ภาคประชาสังคมจะติดตามเพื่อเสนอแนะต่อไป เพื่อให้เกิดความยุติธรรม และการได้ประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน ดังนั้น ข้อเสนอของภาคประชาชนที่จะผ่านเวทีการสัมมนาย่อยอันเป็นเวทีคู่ขนานนี้ จึงเป็นการตรวจสอบ และนำเอาปัญหาที่แต่ละประเทศประสบปัญหาร่วมกันมาพูดคุยเพื่อหาทางออก รวมถึงร้องเรียนประเด็นเรื่องของประชาชนที่ขาดไป นอกจากนี้จะเป็นการมุ่งสร้างความสามัคคีและสัมพันธภาพระหว่างประเทศในภูมิภาคร่วมด้วย โดยผลจากการสัมมนาจะนำไปเสนอต่อผู้นำอาเซียนและสำนักเลขาธิการอาเซียน ในส่วนของประเทศไทยก็จะมีการนำเสนอต่อรัฐบาลไทย ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ โดยนางชนิดา กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไทยมีการรับฟังเป็นอย่างดี เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศ มีความต้องการให้ประชาชนเข้าร่วมด้วยเป็นทุนเดิม ดังนั้นการนำเสนอเข้าสู่ระดับเวทีสากล จึงเป็นที่จับตามองต่อไปว่าจะมีการตอบรับมากน้อยเพียงใด นี่คือเสียงสะท้อนจากภาคประชาชน ที่มุ่งหวังเพื่อตรวจสอบการทำงานของอาเซียนเพื่อให้มีความโปร่งใสมากขึ้น ให้ภาคประชาชนได้เห็นและตรวจสอบได้ รวมถึงสะท้อนถึงปัญหาโดยตรงเพื่อมุ่งหวังการแก้ไขต่อไป ทั้งนี้เพราะภาคประชาชนมองว่าในอนาคตอันใกล้ที่ภูมิภาคอาเซียนจะร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นั่นหมายถึงการหลอมรวมประชาชนของทุกประเทศด้วยเช่นกัน ดังนั้นการรับฟังเสียงและข้อเรียกร้องจากประชาชนจึงเป็นวิถีทางและกระบวนการหนึ่ง ที่ผู้นำหลายๆ ประเทศต้องมีการรับฟัง เพื่อการก้าวเดินร่วมของอาเซียนที่เข้มแข็งขึ้น ส่วนผลจากเวทีคู่ขนานจะเป็นเช่นไรสำนักข่าวแห่งชาติจะติดตามเพื่อนำมาเสนอต่อไป พิมพิดา โยธาสมุทร เรียบเรียง ชูชาติ เทศสีแดง บรรณาธิการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล