โอบามาแจงครอบครัวเหยื่อก่อการร้ายก่อนปิดเรือนจำกวนตานาโม

โอบามาแจงครอบครัวเหยื่อก่อการร้ายก่อนปิดเรือนจำกวนตานาโม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ทำเนียบขาวเปิดแถลงเมื่อวันศุกร์ (6 ก.พ.) ว่าประธานาธิบดีบารัก โอบามาแห่งสหรัฐได้พบหารือกับครอบครัวของเหยื่อการก่อการร้ายในเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 และเหตุระเบิดเรือรบยูเอสเอสโคลของสหรัฐ เพื่ออธิบายถึงแผนการปิดเรือนจำอ่าวกวนตานาโมในคิวบา ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังนักโทษต้องสงสัยก่อการร้าย

ทำเนียขาวระบุว่า ผู้นำสหรัฐได้พบปะกับครอบครัวของเหยื่อราว 40 คนนาน 1 ชั่วโมง และได้บอกกล่าวกับคนกลุ่มนี้ว่า ต้องการให้การพบกันครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุยเกี่ยวกับการปิดเรือนจำกวนตานาโม ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของโอบามาที่ได้ลงนามก่อนหน้านี้ ให้ปิดเรือนจำดังกล่าวภายใน 1 ปี และให้ระงับการพิจารณาคดีผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายชั่วคราว

การพบกันมีขึ้น 1 วัน หลังจากผู้พิพากษาของเพนตากอนได้ถอนฟ้องนักโทษชาวซาอุดีอาระเบียที่ถูกคุมขังที่อ่าวกวนตานาโมในข้อหาสมคบคิดก่อเหตุโจมตีเรือรบยูเอสเอสโคลของสหรัฐที่เยเมนเมื่อปี 2543 ทำให้ทหารสหรัฐเสียชีวิต 17 คน

นายเคนเนท คลอดเฟลเตอร์ ลูกชายของทหารที่เสียชีวิตในเหตุโจมตีเรือรบโคลบอกหลังเข้าพบนายโอบามาว่า ตอนแรกตัวเองเข้าพบด้วยความรู้สึกไม่เห็นด้วยกับแผนการปิดเรือนจำ แต่นายโอบามาทำให้ตัวเองรู้สึกว่า นายโอบามามีความจริงใจในการแก้ปัญหานี้ และคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่นายโอบามาจะเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่ดีที่สุดของสหรัฐ เพราะนายโอบามาแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์

แถลงการณ์ทำเนียบขาวระบุเพิ่มเติมว่า นายโอบามาแสดงออกชัดเจนว่า ความรับผิดชอบสำคัญที่สุดของเขาคือ การทำให้ชาวอเมริกันปลอดภัย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า การปิดเรือนจำกวนตานาโมจะทำให้สหรัฐปลอดภัยกว่าเดิม และช่วยให้ผู้กระทำผิดได้รับการตัดสินโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐต่อสู้กับการก่อการร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกัน เอพีรายงานอ้างแหล่งข่าวในกองทัพสหรัฐที่ระบุว่า ทำเนียบขาวยังเผยด้วยว่า กำลังพิจารณากำหนดการถอนทหารออกจากอิรักตามที่นายโอบามาเคยให้คำมั่นไว้ โดยมีกำหนดเวลาตั้งแต่ 16, 19 และ 23 เดือน โดยทำเนียบขาวได้รับรายงานการประเมินความเสี่ยงทางเลือกทั้งสามแบบ แม้มีแนวโน้มว่าจะมีการเลือกถอนทหารใน 16 เดือนก็ตาม ซึ่งไม่ว่าทางเลือกใด สหรัฐได้แต่ตั้งความหวังว่าจะสามารถทิ้งทหารไว้ที่อิรักหลายกองพันไว้ทำหน้าที่ต่างๆ กันเพื่อฝึกฝนและให้คำปรึกษาแก่กองกำลังรักษาความมั่นคงของอิรักเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล