หน.คสช.สั่งตั้งผอ.สํานักงานบริหารนโยบาย
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/ns/0/ud/438/2194574/774673-01.jpgหน.คสช.สั่งตั้งผอ.สํานักงานบริหารนโยบาย

หน.คสช.สั่งตั้งผอ.สํานักงานบริหารนโยบาย

2017-04-03T21:30:00+07:00
แชร์เรื่องนี้

หัวหน้า คสช. สั่งแต่งตั้งผู้อํานวยการสํานักงานบริหารนโยบายประสานงานเลขานุการ ป.ย.ป. ขับเคลื่อนสร้างปรองดอง

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 18/2560 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2560 ความว่า ตามที่ได้มีคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2560 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ลงวันที่ 17 ม.ค. 2560 กําหนดกลไกการดําเนินการในเรื่องต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง นั้น โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงโครงสร้างการดําเนินการและกําหนดกลไกสนับสนุนการดําเนินการในเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงอาศัยอํานาจตามความในข้อ 8 ของคําสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2560 จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 5 ของคําสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2560 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ลงวันที่ 17 ม.ค. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ให้จัดตั้งสํานักงานบริหารนโยบายของนายกฯขึ้นเป็นหน่วยงานในสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่กลั่นกรอง ตรวจสอบ ประเมินผล กําหนดตัวชี้วัด และติดตามความก้าวหน้าในการดําเนินการตามมติ ป.ย.ป. พร้อมให้นายกฯแต่งตั้งผู้อํานวยการสํานักงานบริหารนโยบายของนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ขึ้นตรงต่อนายกฯ เพื่อเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ปฏิบัติงานในสํานักงานบริหารนโยบายของ นายกฯและทําหน้าที่ประสานกับเลขานุการ ป.ย.ป. ในการขับเคลื่อนงานต่าง ๆ ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ ในการนี้ ให้มีอํานาจขอยืมตัวข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐอื่น ตลอดจนจ้างผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมมาบรรจุ แต่งตั้ง หรือปฏิบัติงานในสํานักงานบริหารนโยบายของนายกฯได้ตามความจําเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ หน้าที่และอํานาจ การบริหารงาน และการดําเนินงานของสํานักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี ให้เป็นไปตามที่กําหนดในระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนั้น เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการตามวรรคสอง 

ให้สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดให้สํานักงานบริหารนโยบายของนายกฯ มีเจ้าหน้าที่ งบประมาณ สถานที่ทํางาน อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการทํางาน และสามารถเบิกจ่ายงบประมาณในการดําเนินการต่าง ๆ ได้ตามที่ ป.ย.ป. กําหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง”

ข้อ 2 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 5/1 “เพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนงานด้านการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ให้สํานักเลขาธิการนายกฯสนับสนุนการดําเนินการในเรื่องต่าง ๆ ตามที่กําหนดไว้ในคําสั่งนี้ ตามความเหมาะสมหรือตามที่มีการร้องขอ โดยให้สามารถรับโอนทรัพย์สินของสํานักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สํานักงานสภาพัฒนาการเมืองและสํานักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย มาดูแลใช้สอย รวมทั้งรับโอนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสํานักงานดังกล่าวข้างต้นมาบรรจุ แต่งตั้ง หรือปฏิบัติงานในสํานักเลขาธิการนายกฯโดยความเห็นชอบของนายกฯหรือรองนายกฯที่นายกฯมอบหมายเพื่อให้ภารกิจในการสนับสนุนการดําเนินการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ซึ่งได้ดําเนินการมาแล้วระยะหนึ่งเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ให้โอนอัตรากําลังข้าราชการและพนักงานราชการของสํานักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เฉพาะในส่วนที่ยังไม่มีคนครองในวันก่อนวันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ พร้อมทั้งงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอัตรากําลังดังกล่าวไปกําหนดตําแหน่งในสังกัดสํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยให้เป็นไปตามบัญชีรายละเอียดการตัดโอนตําแหน่งว่างและอัตราเงินเดือน ตามที่ อ.ก.พ. กระทรวง สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอนายกรัฐมนตรี เห็นชอบ 

ทั้งนี้ โดยให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องดําเนินการตามหลักเกณฑ์หรือขั้นตอนที่กําหนดไว้ในกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอีก และเมื่อดําเนินการเรียบร้อยแล้วให้สํานักเลขาธิการนายกฯรายงานสํานักงาน ก.พ. ทราบด้วย”

ข้อ 3 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ