ปชช.ทั่วทุกสารทิศกราบพระบรมศพ-จนท.เข้มจุดคัดกรอง

ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ เข้ากราบพระบรมศพ ต่อเนื่อง ขณะ กระทรวงมหาดไทย นำ 3 จังหวัด ร่วม ด้าน จนท.เข้มจุดคัดกรอง
บรรยากาศที่บริเวณท้องสนามหลวง และหน้าพระบรมมหาราชวังในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 148
ยังคงมีประชาชนเดินทางมาจากทั่วทุกภูมิภาค เข้ารอกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งสำนักพระราชวัง ได้เปิดให้ประชาชนชุดแรกเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่เวลาประมาณ 5.00 น.
ขณะที่ วันนี้กระทรวงมหาดไทย ได้อำนวยความสะดวก นำประชาชนมาจาก 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ. ยโสธร 500 คน จ. พิจิตร 500 คน และ จ. สุมทรสาคร 500 คน รวม 1,500 คน
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยยังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตามจุดคัดกรองต่างๆ รอบสนามหลวงเพื่อตรวจตราบุคคลที่จะเข้ามาในพื้นที่ ตรวจกระเป๋าและสแกนร่างกาย เพื่อป้องกันอาวุธหรือของมีคม นอกจากนี้ ยังมีการจัดชุดตรวจตราเดินเท้าดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการร่วมด้วยช่วยกันให้บริการประชาชน ที่อยู่บริเวณทางเข้าตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คอยให้ ข้อมูลประชาชนที่มาสอบถามเส้นทางรวมไปถึงรับแจ้งเหตุ ต่างๆอีกด้วย
ปชช.กราบพระบรมศพ147วันกว่า5.7ล้านคน
ประชาชนยังคงทยอยเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 21.11 น.ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 31,018 คน รวม 147 วัน มี 5,708,929 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,283,235.42 บาท รวม 147 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 472,138,275.01 บาท
ขณะที่ สำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร ยังคงจัดสถานที่พักค้างคืนสำหรับประชาชนที่จะเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเมื่อ วันที่ 29 มีนาคม มีประชาชนเข้าพักค้างคืน ที่พักสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นจำนวน 7 คน ซึ่ง กทม.ยังคงอำนวยความสะดวกต่อเนื่อง หากผู้ที่ต้องการพักค้าง สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ เต็นท์อำนวยการกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ด้านข้างจุดรอคอยท้องสนามหลวงฝั่งทางเหนือ
ครูบำนาญพร้อมคณะจากตรังกราบพระบรมศพ
นางอังคณา อ่อนน้อม อายุ 66 ปี ข้าราชการครูบำนาญ พร้อมคณะ กว่า 80 คน จาก รร.เทศบาล 2 วัดกังปังสุรินทร์ เดินทางมาจากจังหวัดตรัง เพื่อมาแสดงความจงรักภักดี ต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งส่วนตัววันนี้มาเป็นครั้งแรก รู้สึกภูมิใจ เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อเคยไปรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่9
ที่จังหวัดสงขลาตั้งแต่ยังอยู่ในวัยมัธยม ได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่าน และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีครั้งนั้นยังรู้สึกปลื้มใจไม่ลืม เพราะเป็นคนต่างจังหวัดพอได้เข้าในเมืองก็ตื่นเต้น ยังได้นำไปพูดคุย และบอกต่อกับเพื่อน อย่างภาคภูมิใจ
นอกจากนี้ ตนเองก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง และประหยัดอดออม ใช้ของทุกอย่างให้หมด เช่นการใช้ยาสีฟันจนหมดหลอด เป็นต้น เพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง
ลุงจากอำนาจเจริญตั้งใจสานต่อพระราชปณิธานในหลวงงร.9
นายสาย บุตรราช อายุ 63 ปี ประชาชนที่รอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาจาก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ วันนี้มาเป็นครั้งแรก เพราะเห็นประชาชนเดินทางมาจำนวนมาก จึงอยากจะมา กราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะส่วนตัวยังไม่มีโอกาสได้ไปรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่ก็น้อมนำคำสอนทุกอย่างของพระองค์ ที่ตนเองจำได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน และสอนลูกหลานให้ทำความดี
นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า รู้สึกคิดถึง และสงสารที่พระองค์ท่าน ทรงงานหนักเพื่อประชาชนคนไทย ในฐานะที่เป็นประชาชนของพระองค์ก็จะขอทำทุกอย่างตามรอยและสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9
1เม.ย.กอร.รส.ปรับจุดคัดกรองเหลือเพียง5จุด
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่าที่ประชุม กอร.รส.ได้พิจารณาผังการจัดพื้นที่ รวมทั้งระบบการเข้าคิวกราบถวายบังคมพระบรมศพและการให้บริการต่างๆในพื้นที่ท้องสนามหลวง รูปแบบใหม่ซึ่งพร้อมให้บริการในวันที่ 1 เม.ย.60 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติปรับจุดคัดกรองจากเดิม 8 จุด เหลือ 5 จุด คือ จุดคัดกรองด้านวงเวียนร.ด. จุดคัดกรองท่าช้าง จุดคัดกรองสะพานผ่านพิภพ จุดคัดกรองหลังจากข้ามสะพานแบริ่ง ด้านโรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์ และจุดคัดกรองด้านกระทรวงกลาโหม โดยประชาชนที่ผ่านจุดคัดกรองทั้ง 5 จุดแล้ว สามารถมารับประทานอาหารซึ่งได้จัดเตรียมไว้ให้ ณ โรงทานด้านข้างพระแม่ธรณีบีบมวยผม ก่อนเข้าคิวเพื่อกราบถวายบังคมพระบรมศพ ซึ่งจากนี้ไปจะไม่มีการแจกจ่ายอาหารในเต็นท์พักคอย ประชาชนต้องรับประทานอาหารให้แล้วเสร็จด้านนอกเท่านั้น รวมทั้งรับน้ำดื่มจากจุดแจกน้ำดื่มคนละ 1 ขวด และสามารถเติมได้จากจุดเติมน้ำดื่ม หรือรับบริการจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะคอยให้บริการเติมน้ำในเต็นท์พักคอย โดยเต็นท์พักคอยของประชาชนจะย้ายไปตั้งบริเวณโค้งด้านทิศใต้ของสนามหลวง ซึ่งจะมีเก้าอี้สามารถรองรับประชาชนได้กว่า 3,000 คน
สำหรับประชาชนที่ต้องการชมนิทรรศการเย็นศิระเพราะพระบริบาล เมื่อผ่านจุดคัดกรองแล้วให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าประสงค์จะเข้าชมนิทรรศการ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำไปยังเต็นท์พักคอยซึ่งตั้งอยู่ด้านศาลฎีกาต่อไป
ปชช.กราบพระบรมศพต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
บรรยากาศการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ประชาชนยังคงเดินทางมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ และจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวก จัดระบบคิวเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และให้บริการอาหาร น้ำดื่ม
นอกจากนี้ สุภาพสตรี ที่แต่งกายไม่เรียบร้อย อาทิ สวมกระโปรงสั้น หรือใส่กางเกงมา ก็สามารถใช้บริการยืมผ้าถุงพระราชทานได้ที่บริเวณเต็นท์ด้านหน้า จุดพักคอย ก.ไก่ โดยนำบัตรประชาชน หรือบัตรแสดงตัวอื่นๆเพื่อลงทะเบียน ซึ่งจะให้บริการตั้งแต่ 07.00-21.00 น.
ขณะที่ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ยังคงจัดสถานที่พักค้าง ให้ประชาชนที่จะเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเมื่อ วันที่ 29 มีนาคม มีประชาชนเข้าพักค้าง ที่พักสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นจำนวน 7 คน ซึ่ง กทม.ยังคงอำนวยความสะดวกต่อเนื่อง หากผู้ที่ต้องการพักค้าง สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ เต็นท์อำนวยการกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ด้านข้างจุดรอคอยท้องสนามหลวงฝั่งทางเหนือ