ปัญญาชี้ศาลรธน.ยังใช้อำนาจตุลาการ

'ดร.ปัญญา' ชี้แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะถูกแยกเป็นหมวด แต่ยังคงใช้อำนาจของตุลาการเช่นเดียวกับศาลอื่น ชี้ทุกการกระทำของรัฐต้องมีกม.รองรับ ด้าน 'ทวีเกียรติ' ย้ำ ทุกคนต้องได้รับคุ้มครองตามกม.เท่าเทียม
ดร.ปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวในการอภิปราย หัวข้อ ศาลรัฐธรรมนูญภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า การที่นักวิชาการกล่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็น The Super Court นั้นเนื่องจากบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ได้บัญญัติให้มีหน้าที่และอำนาจมากกว่ารัฐธรรมนูญฉับบอื่นๆที่ผ่านมา ซึ่งการที่จะวิเคราะห์ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีลักษณะตามที่นักวิชาการกล่าวหรือไม่นั้น สามารถที่พิจารณาได้ 2 ด้าน คือ ด้านของรูปแบบและด้านเนื้อหา
ในส่วนของด้านรูปแบบนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้แยกศาลรัฐธรรมนูญออกจากหมวดศาลต่างหาก เฉพาะที่ว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญหมวด 11 มาตรา 200 ถึง มาตรา 214 ถึงแม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะถูกแยกออกเป็นอีกหมวด แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็ยังคือองค์กรศาลที่ใช้อำนาจของตุลาการ เช่นเดียวกับศาลอื่นๆ ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีลักษณะปกติทั่วไปในด้านของรูปแบบ
ดร.ปัญญา ยังกล่าวว่า หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่จะบัญญัติไว้ ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนั้น จะบัญญัติอย่างไร หากนำไปเปรียบเทียบกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ซึ่งบัญญัติไว้ว่า การกระทำขององค์กรที่ใช้อำนาจรัฐไปกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ ขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ผู้ที่เสียหายสามารถนำคดีไปสู่การพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบว่าการกระทำขององค์กรที่ใช้อำนาจรัฐ ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
ทั้งนี้ ดร.ปัญญา กล่าวว่า มีประเด็นที่สำคัญที่ต้องพิจารณาว่า อะไรคือการกระทำที่ถูกควบคุมเพื่อไม่ให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และการกระทำนั้นควรจะถูควบคุมโดยองค์กรใด ซึ่งถ้ามองภายใต้หลักนิติรัฐจะถือว่าการกระทำของรัฐทุกอย่างต้องมีกฎหมายรองรับ และการกระทำของรัฐต้องชอบด้วยกฎหมายและมีการควบคุมความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการกระทำนั้นด้วย ดังนั้น ความสำคัญของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้อยู่ ที่รูปแบบหรือเนื้อหา แต่อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้สร้างคุณูปการให้ประเทศชาติและประชาชนทางด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและกฎหมายโดยรักษาระบบศาลให้มีความยั่งยืนตามหลักนิติธรรม
ทางด้าน ศ.ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายพิเศษในหัวข้อหน้าทีและบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญไทย ว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายตามอักษร ตามความมุ่งหมายของบทบัญญัตินั้นๆ รวมถึงการตีความกฎหมาย ซึ่งบุคคลที่จะสามารถตีความกฎหมายได้นั้นต้องมีความชำนาญ และต้องมีวิจารณญาณ ไม่มีใครสามารถตีความได้ นอกจากศาล
ทั้งนี้ ศ.ดร.ทวีเกียรติ ระบุว่า การปฏิบัติในรัฐธรรมนูญตามมาตรา 27 นั้น บุคคลย่อมเสมอภาคในกฎหมายมีสิทธิและเสรีภาพ และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ซึ่งในปัจจุบันทุกคนมีใช้สิทธิ์ในการเรียกร้องความเสมอภาค โดยเฉพาะในกลุ่มความหลากหลายทางเพศ แต่กลับไม่มีการเรียกร้องหรือแก้ไข เพื่อให้มีความเสมอภาคในสิ่งที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้รับ แต่อีกบุคคลหนึ่งไม่ได้รับเลย เช่นผู้ชายได้รับสิทธิ์นั้น แต่กลับไม่ให้สิทธิ์นั้นกับผู้หญิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรกระทำแต่กลับไม่มีการเรียกร้อง