ผบ.ตร.ไม่หนักใจคดีวิสามัญชาวลาหู่สั่งทำตรงไปตรงมา

ผบ.ตร.ไม่หนักใจคดีวิสามัญชาวลาหู่สั่งทำตรงไปตรงมา

ผบ.ตร.ไม่หนักใจคดีวิสามัญชาวลาหู่สั่งทำตรงไปตรงมา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไม่หนักใจคดีทหารวิสามัญชาวลาหู่ สั่งให้พนักงานสอบทำคดีอย่างตรงไปตรงมา จ่อเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล ปัดโชว์ CCTV

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารได้มอบพยานหลักฐานโดยเฉพาะกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นรถนายชัยภูมิ ป่าแส นักเคลื่อนไหวกิจกรรมชาวลาหู่ พร้อมยาเสพติดของกลาง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ว่า เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนไปรวบรวมพยานหลักฐาน โดยสั่งการให้พนักงานสอบทำงานอย่างตรงไปตรงมา พร้อมระบุว่าคดีนี้ตนเองไม่รู้สึกหนักใจ เพราะคดีไม่มีความซับซ้อน และหลังจากนี้จะเชิญเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลตามขั้นตอน เนื่องจากที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร มีการจับคดียาเสพติดบ่อยครั้ง บางครั้งมีการต่อสู้ยิงปะทะ เพราะขบวนการค้ายาเสพติดจะมีการพกพาอาวุธเพื่อต่อสู้อยู่แล้ว

และที่ผ่านมาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้รายงานว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและวิสามัญมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด โดยตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินและผู้ร่วมขบวนการ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน พนักงานสอบสวนไม่สามารถเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดกับสาธารณชนได้ เนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ และพยานหลักฐานในสำนวนคดีบางอย่างหากเปิดเผยจะมีผลกระทบต่อรูปคดี แต่ตำรวจยืนยันจะรวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติรวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน พยานแวดล้อม อย่างรอบคอบเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นทำ โดยที่ผ่านมาทางกองทัพไม่ได้กำชับ หรือเข้ามาแทรกแซงการทำงานแต่อย่างใด และเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอนทันกรอบเวลาสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ

อย่างไรก็ตามสำหรับคดีนี้ ตำรวจแบ่งการทำงานเป็น 3 คดี คือ คดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด คดีชันสูตรพลิกศพ และคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญผู้เสียชีวิต


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล