พายุถล่มสวนทุเรียนเงาะตราดเสียหายกว่า2ลบ.

เกษตรกร อ.เมือง จ.ตราด น้ำตาตก เจอพายุพัดต้นโค่น ทุเรียนร่วง 2,500 ลูก เงาะหล่น 14 ตัน เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
ที่สวนนายแสงอรุน ปรุงผล เกษตรกรชาวทุเรียน ม.6 ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด นายสมนึก อนันต์ เกษตรอำเภอเมืองตราด และนายไพศาล ศรีสกลมารค หัวหน้าฝ่ายอำเภอเมืองตราด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เดินทางตรวจสอบสำรวจความเสียหายทุเรียนและเงาะ หลังถูกพายุพัดเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา
นายแสงอรุน กล่าวว่า ต้นทุเรียนพันธุ์ชะนี อายุ 30 ปี สูงเกือบ 10 เมตร ถูกพายุพัดล้มโค่นกว่า 10 ต้น บางต้นกิ่งฉีกขาดทุเรียนร่วงตกลงมานับพันลูก ความเสียหายเฉพาะสวนตนเองอยู่ประมาณ 700,000 บาท ยังไม่รวมความเสียหายของต้นทุเรียนอายุ 30 ปี ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ จากนั้นตนเองได้เก็บลูกทุเรียนที่ร่วงมากองไว้ แล้วแยกทุเรียนที่สามารถขายต่อได้ ซึ่งมีเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถขายได้ และขายได้ไม่เต็มราคาที่พ่อค้าคนกลางเสนอราคาให้ในกิโลกรัมละ 85 บาท
ขณะที่ สวนนายถวิล สุภาพ เกษตรกรชาวสวนเงาะ ม.5 ต.อ่าวใหญ่ กล่าวว่า ตั้งแต่ทำสวนผลไม้มา ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ที่พายุพัดต้นเงาะพันธุ์โรงเรียนที่มีอายุกว่า 30 ปี โค่นเสียหายไป 13 ต้น เงาะเสียหายประมาณ 12 ตัน สูญเงินไปหลายแสนบาท
ด้าน เกษตรอำเภอเมืองตราด กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับผลกระทบจากวาตภัยในครั้งนี้ 4 ราย คือ ความเสียหายรวมกันมีทุเรียน 2,500 ลูก เงาะอีก 14 ตัน เบื้องต้นความเสียหายประมาณ 2 ล้านกว่าบาท
นอกจากนี้ ผลทุเรียนที่ยังไม่ร่วง ถูกพายุพัดได้รับความเสียหายเช่นกันบริเวณก้าน ซึ่งคาดว่าในอีก 1-2 วันข้างหน้าจะร่วงลงมาอีกจำนวนมาก ส่วนการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง สามารถช่วยได้เพียงต้นที่โค่นเสียหายเท่านั้น 1 ไร่ จะรับเงินช่วยเหลือ 1,690 บาท
ส่วนนายไพศาล ศรีสกลมารค หัวหน้าฝ่ายอำเภอเมืองตราด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า ทั้ง 4 ราย ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ทาง ธกส. จะนำเรื่องเข้าไปพิจารณาให้การช่วยเหลือ ซึ่งมีแนวทางการช่วยเหลืออยู่ 2 ทาง คือ การขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ และการลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธกส.