นักวิชาการชี้คำพิพากษาแกนนำม็อบต้องผูกพันธ์กรณีอื่น
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/ns/0/ud/437/2186042/771036-01.jpgนักวิชาการชี้คำพิพากษาแกนนำม็อบต้องผูกพันธ์กรณีอื่น

นักวิชาการชี้คำพิพากษาแกนนำม็อบต้องผูกพันธ์กรณีอื่น

2017-03-19T13:54:00+07:00
แชร์เรื่องนี้

นักวิชาการชี้คำพิพากษาแกนนำม็อบต้องผูกพันธ์กรณีอื่น พร้อมดูองค์ประกอบศาลแพ่ง - ศาลฏีกานักการเมือง

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง แถลงการณ์ความเห็นและข้อเรียกร้องเกี่ยวกับบทบาทของศาลยุติธรรม และสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคำพิพากษาศาล โดยเห็นว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ได้ดึงส่วนต่างๆ ของสังคมไทย เข้ามาสู่วังวนของความขัดแย้ง โดยเฉพาะภายหลังการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 ที่ศาลมีบทบาทสำคัญในการบังคับใช้กฎหมาย ทั้ง การดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีความผิดเนื่องจากการการฝ่าฝืนสร้างคำสั่งที่เกิดจากการใช้อำนาจรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 44 หรือบทบาท และจุดยืนของศาลในการดำเนินคดีพลเรือนต่อศาลทหาร  ทางเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง เห็นว่า ศาลเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนจึงมีความรับผิดชอบอย่างสำคัญ ในการเป็นหลักประกันสิทธิและเสรีเสรีภาพของประชาชน จากการถูกล่วงละเมิดโดยรัฐ โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพในกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ สิทธิจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีอาญา ที่ใน หลายกรณีศาลยังปฏิเสธสิทธิพื้นฐานประชาชนในกระบวนการยุติธรรมปราศจากเหตุผล และหลักการทางกฏหมายรองรับ เช่น การไม่ให้สิทธิในการประกันตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน  และผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  

นอกจากนี้ ภายใต้หลักนิติรัฐ องค์กรที่ใช้อำนาจรัฐทุกองค์กร ต้องสามารถถูกตรวจสอบได้ ไม่มีแต่องค์กรตุลาการ