นายกฯโยนคลังดูเก็บภาษีชินก่อน 31 มี.ค. ปัดรังแกใคร

นายกฯโยนคลังดูเก็บภาษีชินก่อน 31 มี.ค. ปัดรังแกใคร

นายกฯโยนคลังดูเก็บภาษีชินก่อน 31 มี.ค. ปัดรังแกใคร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ยัน ไม่ใช้ มาตรา 44 เก็บภาษีหุ้นชินวัตร ย้ำดำเนินการทุกอย่างไม่ขัดหลักนิติธรรม สั่งทุกฝ่ายหาข้อยุติด้วยกฏหมายปกติ ยันผ่อนผันมาตรา 44 วัดพรธรรมกายตลอด ชี้เรื่องคดีความเป็นไปตามขั้นตอน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเรียกเก็บภาษีเงินได้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเส็ก ปี 2549 ซึ่งจะหมดอายุความ วันที่ 31 มีนาคม นี้ หลังจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฏหมาย เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวานนี้ว่า กรณีดังกล่าวส่วนตัวไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งหลักการสำคัญ รัฐบาลได้ให้นโยบายไปแล้วว่าต้องดำเนินการอย่างไม่ขัดต่อหลักนิติธรรมและยืนยันว่าจะไม่ใช้มาตรา 44 ซึ่งอาจกลายเป็นการเข้าไปรุกไล่ 

ขณะเดียวกันส่วนตัวได้สั่งการให้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเมื่อวานที่ผ่านมา อาทิ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) โดยได้ข้อยุติในการใช้กฏหมายปกติดำเนินการกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรจะดำเนินการหากทำได้หรือไม่ได้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ทุกฝ่ายมีโอกาสโต้แย้ง รวมถึงต้องดูการดำเนินการของศาลต่างๆ ที่ผ่านมาด้วย เนื่องจากหลายอย่างมีความทับซ้อนกันอยู่ และบางอย่างส่วนตัวสั่งการไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายกฏหมายในการพิจารณา ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 31 มีนาคมนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้รังแกใคร

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ดีเอสไอ ระบุว่า"พระทัตตชีโว" เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่นำเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่บริจาคให้วัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้น และมีเซียนหุ้น อักษรย่อ ส. เป็นผู้ดำเนินการ ว่า จะต้องรอการพิสูจน์ทราบ ซึ่งกระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ ในส่วนของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนก็ต้องดำเนินการไปพร้อมกับการฟื้นฟูเพราะมีความเดือดร้อน จึงต้องทำตามหลักฐานทางการเงินจึงอยากให้อดทนรอ 

ส่วนการผ่อนปรนมาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการเขียนให้ครอบคลุมไว้เท่านั้น ซึ่งไม่ใช่การปฏิบัติตามนั้นทั้งหมดเพราะที่ผ่านมาก็ได้ผ่อนผันมาตลอด ขอให้เข้าใจว่า มาตรา 44 รัดกุม ครอบคลุมและไม่ต้องใช้กฎหมายหลายฉบับในการดูแลรักษาพื้นที่ให้มีความรวดเร็วมากขึ้น แต่ในที่สุดก็ต้องนำไปสู่การใช้กฎหมายปกติ อย่างในทางคดีก็ต้องไปสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องสงฆ์ เกี่ยวกับพระธรรมวินัย พ.ร.บ.สงฆ์ มีมาตรา 21 กำกับอยู่ ขณะนี้ได้ให้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประสานกับมหาเถรสมาคมดูแลตามขั้นตอน ซึ่งส่วนตัวได้ศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายสงฆ์มาตลอด

 

นายกฯยืนยันไม่บังคับยกเลิกรถตู้-เน้นสมัครใจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีที่แวนทัวร์เจ้าของรถตู้โดยสารเจ้าใหญ่ เส้นทางโคราช-บุรีรัมย์ ขู่จะนำรถตู้มาล้อมทำเนียบรัฐบาลหากรัฐบาลยกเลิกรถตู้และใช้มินิบัสแทนว่า ที่ผ่านมาได้มีการหารือกับนายกสมาคมผู้ประกอบการรถตู้แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้บังคับในการยกเลิกรถตู้ แต่เป็นตามความสมัครใจว่าอยากเปลี่ยนหรือไม่ โดยรัฐบาลจะให้การดูแลและสนับสนุน เพราะบังคับมากไม่ได้จะเกิดความเดือดร้อน ทั้งนี้ รถตู้ที่ไม่มีคุณภาพที่ไม่สามารถใช้งานได้ก็ต้องยกเลิกและไปหาวิธีการใหม่ ซึ่งจะต้องเข้มงวดในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ออกคำสั่งมาตรา 44 เกี่ยวกับการจราจร การดูแลรถบริการสาธารณะและรถขนส่ง เพราะรัฐบาลเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้โดยสาร และไม่ให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้ประกอบการที่ดีด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการหรือพลขับที่ไม่รับผิดชอบและรถไม่ได้มาตรฐานต้องดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกว่าจะสามารถขึ้นรถตู้ที่ปลอดภัย หากไม่อยากขึ้นรถตู้ก็ให้ไปขึ้นรถมินิบัสแทน อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำหลายมาตรการให้รถ พลขับ และเทคโนโลยีติดรถ รวมถึงจะต้องมีที่นั่งผู้โดยสารตามจำนวนจริง เข็มขัดนิรภัย และค้อนติดรถ เป็นต้น โดยกรมการขนส่งทางบกจะไปดูแลในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมก่อนที่จะประกาศออกมา

 

นายกฯปัดสั่งการแจ้งความ-ออกหมายจับ"วีระ"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาออกหมายจับ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น(คปต.) ภายหลังเผยแพร่โพลวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลผ่านเฟซบุ๊ก ว่า เป็นเรื่องของการถูกกล่าวหาว่ามีการทำผิดกฎหมายและทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีคนไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้เป็นผู้ร้องและยืนยันไม่ได้ไปสั่งใคร โดยทุกอย่างมีกฎหมายดำเนินการอยู่แล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาการจัดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในโครงการ Safe Zone School (CCTV) 12 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่ตรงสเปกว่า กระทรวงศึกษาธิการกำลังสอบอยู่ เพราะสิ่งที่ส่อแนวโน้มไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย และไม่โปร่งใสต้องสอบสวนทั้งหมด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เมื่อสอบแล้วต้องดูเหตุผล หากรับได้ก็จบ หรือหากรับไม่ได้ก็ไปสู่กระบวนการศาลตัดสิน ดังนั้นศาลตัดสินมาก็ต้องเชื่อ ถ้าให้ตัดสินกันเองก็จะยุ่งไปหมด

 

นายกฯชี้เวิลด์แบงก์ห่วงธรรมดา-ต้องเร่งทำความเข้าใจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง กรณี ธนาคารโลกเปิดเผยรายงานการกลับสู่เส้นทางการฟื้นฟูการเติบโตและประกันความมั่งคั่งสำหรับคนไทยทุกคน หลังพบการเติบโตของเศรษฐกิจไทยช่วงหลังชะลอตัวลงต่อเนื่อง จากการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 7.7 ตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ลดเหลือโตเฉลี่ยร้อยละ 3.3 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมีการวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงแสดงความเป็นห่วง ว่า เป็นการวิเคราะห์ วิพากวิจารณ์ จากข้อมูลที่มีอยู่เดิม แต่สิ่งที่ได้ดำเนินการมาจะตอบโจทย์ทั้งหมดของธนาคารโลก ว่าเหตุใดจะใช้เวลาให้เร็วขึ้น 20 ปี ไปสู่การเป็นประเทศมีรายได้สูง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาในอดีต และรัฐบาลนี้ต้องแก้ให้ได้โดยเร็ว จึงต้องมีการปฏิรูปประเทศ ส่วนเรื่องที่มีความเป็นห่วงนั้นส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องธรรมดา ที่ธนาคารโลกจะเป็นห่วง ซึ่งจริงๆ แล้วไทยมีความเข้าใจกับธนาคารโลกมาตลอด รวมถึงมีคนไทยอยู่ในธนาคารโลก ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือสร้างความเข้าใจ ว่าแผนต่างๆ ที่ไทยดำเนินการจะมีผลในทางปฏิบัติเมื่อใด

 

นายกฯมั่นใจผู้แทนไทยแจงเวทีทวนสิทธิพลเมืองได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.  กล่าวถึงความคาดหวังต่อบทบาทของคณะผู้แทนไทย ที่เข้าร่วมประชุมทบทวนการบังคับใช้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่เจนีวา ว่า ต้องเข้าใจว่าทุกประเทศถูกซักถามหมด และไทยโดนถามไปประมาณ 10-11 คำถามก็ตอบทั้งหมด โดยส่วนตัวได้รับรายงานว่าที่ประชุมไม่ได้มีปัญหา และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีเหตุผลในการชี้แจง แต่ต้องดูด้วยว่าไทยอยู่ในสถานการณ์ใด และแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งเคยระบุไปแล้วว่าผิดกฎหมายกับสิทธิมนุษยชนอยู่ใกล้กันมาก จึงขอความร่วมมือให้ทุกคนช่วยกัน อาทิ กรณีประเทศไทยทำไมยังมีโทษประหารชีวิตอยู่ แต่ขณะเดียวกันคนไทยบอกทำไมไม่ประหารชีวิต ก็เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันเอง จึงต้องเข้าใจว่าไทยมีกฎหมายก็จริงแต่ไม่ได้ประหารชีวิตมากี่ปีแล้ว ซึ่งประเทศมหาอำนาจก็มี และบางรัฐก็ยังมีอยู่

 

นายกฯยันไทยฟิลิปปินส์สัมพันธ์ดี-เตรียมรับ"ดูเตอร์เต"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ว่า ประธานาธิบดีฟิลิลิปินส์ จะเดินทางมาเยือนไทยตั้งแต่ตอนต้นปี แต่เลื่อนมาเพราะติดภารกิจงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งวันนี้ถึงเวลาที่เหมาะสม โดยจะเดินทางเยือนประเทศไทยในวันที่ 21-22 มี.ค.นี้ ซึ่งจะมาแนะนำตัวในฐานะที่ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่ รวมถึงหารือร่วมกันในทุกด้านของไทย-ฟิลิปินส์ โดยวันนี้ทุกอย่างระหว่างไทย-ฟิลิปินส์ก็ดีอยู่แล้ว เพราะฟิลิปปินส์เป็นลูกค้าขายข้าวของประเทศไทย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล