นายกฯเร่งจัดระเบียบขอทานจับตาเด็กตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์

นายกฯเร่งจัดระเบียบขอทานจับตาเด็กตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์

นายกฯเร่งจัดระเบียบขอทานจับตาเด็กตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ กำชับ พม. ป้องกันเด็กตกเป็นเหยื่อกระบวนการค้ามนุษย์ ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา เร่งจัดระเบียบสร้างอาชีพ ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำชับให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษกับกลุ่มขอทานเด็ก ซึ่งอาจเป็นเหยื่อในกระบวนการค้ามนุษย์ และขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นขอทานหรือคนไร้ที่พึ่ง สามารถแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า การจัดระเบียบขอทานและคนไร้ที่พึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง จึงฝากให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ บูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยเพื่อทำงานในเชิงป้องกัน และแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาซึ่งมีหลายมิติ เช่น การใช้ความรุนแรงในครอบครัว การติดยาเสพติด ความตึงเครียดจากสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว การตั้งครรภ์ไม่พร้อม เป็นต้น หากครอบครัวมีความอบอุ่นเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ก็จะช่วยลดจำนวนคนหนีออกจากบ้านได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 11 แห่ง มีสมาชิกอาศัยพึ่งพิงอยู่ 4,334 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้มีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และผู้ป่วยทางจิตเวช

นอกจากนี้ พล.ท.สรรเสริญ ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลจัดตั้งกองอำนวยการแก้ไขปัญหาคนไร้ที่พึ่งและขอทาน (กอค.) พร้อมจัดชุดปฏิบัติการ 10 ชุด กระจายลงพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อจัดระเบียบขอทานและคนไร้ที่พึ่งอย่างเข้มข้นตลอดเดือนมีนาคม โดยในช่วงวันที่ 1 – 7 มี.ค. ที่ผ่านมา พบขอทาน 58 ราย คนไร้ที่พึ่ง 62 ราย รวม 120 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนต่างด้าว 29 ราย จากนี้จะนำคนขอทานและคนไร้ที่พึ่งเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ บ้านมิตรไมตรี กทม. และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี โดยหากเป็นคนไทยจะได้รับการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ตรวจสอบปัญหาเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุด เสริมสร้างความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ ให้สามารถหารายได้เลี้ยงตนเองและกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ หากพบเป็นผู้ป่วยจิตเวชจะถูกส่งไปยังสถานพยาบาลเฉพาะทาง ส่วนผู้ที่เป็นคนต่างด้าวจะดำเนินการส่งกลับประเทศ




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล