นายกฯย้ำม.44แก้ปัญหาขอจนท. ทำงานอย่ากดดัน

นายกรัฐมนตรี เปิดสัมมนา “วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัลประเทศไทย หวังอีก 5 ปี ยกระดับสู่รบ.ดิจิทัล ขอช่วยลดขัดแย้ง ย้ำใช้ ม.44 แก้ปัญหาให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน ขออย่าอย่ากดดัน ยัน รัฐบาลรับผิดชอบทุกเรื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา “วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัลประเทศไทย : Thailand Digital Government Vision 2017 – 2021” พร้อมปาฐกถาพิเศษ “รัฐบาลดิจิทัลกุญแจสู่ประเทศไทย 4.0 : Digital Government the Key success to Thailand 4.0” และแถลงวิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัลประเทศไทย โดยกล่าวว่า จากการที่รัฐบาลต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย เพราะระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้าไปมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินงานของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร การท่องเที่ยว การศึกษา การแพทย์ การลงทุน การป้องกันและแก้ปัญหาภัยพิบัติ รวมถึงการบริหารจัดการภาครัฐ ทั้งในมิติการให้บริการประชาชน มิติการบริหารจัดการภาครัฐ และมิติการกำหนดนโยบาย จึงมีความจำเป็นที่หน่วยงานภาครัฐต้องปรับเปลี่ยนการทำงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และต้องสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นของรัฐบาล ได้เห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาและยกระดับการทำงานของภาครัฐ จึงขอประกาศวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการมุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ภาครัฐ ไทยจะยกระดับสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน มีการทำงานแบบอัจฉริยะให้บริการ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ขอให้ทุกคนช่วยกันลดความขัดแย้ง ลดความไม่เข้าใจ เพราะไม่อย่างนั้นรัฐบาลก็จะต้องกลับมาแก้ปัญหาและส่งผลให้การทำงานติดขัดไปหมด บุคลากรภาครัฐต้องเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนประเทศโดยช่วยกันลดความขัดแย้งและดำเนินการในสิ่งที่ทำได้ไปก่อน ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เนื่องจากก่อนปี 2560 เป็นเรื่องของการเตรียมงานฟังก์ชั่น และในปี 2560 เป็นปีแห่งการปฏิรูปจึงขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้ประเทศเดินหน้าโดยไม่ถอยหลังกลับมาอีก
ทั้งนี้ หวังว่าทุกหน่วยงานจะร่วมกันขับเคลื่อนการทางานภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว ด้วยความมุ่งมั่น และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งการให้ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ภาครัฐทุกภาคส่วน ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องร่วมเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลสู่การเป็นรัฐบาล ดิจิทัลไปพร้อมกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติต่อไป
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า วันนี้มีหลายหน่วยงานและองค์การต่าง ๆ ที่ตรวจสอบการทุจริต กล่าวว่า ล่าสุดเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้มีการตรวจสอบและฟ้องหลายพันเรื่อง ก็ต้องรับฟังและแก้ไขปัญหา ซึ่งรัฐบาลต้องระมัดระวังและรับไปแก้ไขปัญหาให้ แต่ขออย่าบิดเบือน หากบิดเบือนก็ต้องใช้กฎหมาย โดยส่วนตัวไม่อยากเอ่ยชื่อใคร เพราะจะมีปัญหา วันนี้ทะเลาะกับคนมามากพอแล้ว ทั้งที่ไม่ตั้งใจทะเลาะ แต่บางทีก็เผลอไปบ้าง เพราะเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้ถูกต้องในทุกเรื่องรวมถึงเรื่องศาสนา ขออย่าพูดว่ารัฐบาลใช้กฎหมายมากเกินไป ซึ่งรัฐบาลไม่เคยชินและไม่อยากใช้อำนาจมาตรา 44 แต่เมื่อกฎหมายปกติใช้ไม่ได้ ก็จำเป็นต้องใช้ แต่ที่ผ่านมามีการกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้ ม.44 ไปหลายเรื่อง และยืนยันว่าใช้เพื่อแก้ไขปัญหาและข้อติดขัด ไม่ใช่เมื่อ ม.44 ใช้ไม่ได้แล้ว กลับมาโทษกฎหมาย ทุกคนต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง เพราะเจ้าหน้าที่จะถูกกดดันและตัดสินใจผิดพลาด จึงขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลรับผิดชอบในทุกเรื่อง
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ได้สั่งให้ผู้บัญชาการทหารบกรู้เรื่องพลเรือน ไม่ใช่เรื่องการปฏิวัติ เพื่อจะช่วยเหลือให้ถูกต่อความต้องการ ไม่ใช่ลงมือไปทำแทน เพราะส่วนตัวไม่ต้องการแบบนั้น แต่หากเมื่อไหร่ประเทศมีปัญหาก็เป็นอีกเรื่อง แต่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และที่ผ่านมา กองทัพก็เป็นหลักการรัฐบาลในการให้ความช่วยประชาชนอยู่แล้ว