นายกฯยันยึดกม.ถอดสมณศักดิ์พระธัมมชโยจี้มอบตัว

นายกรัฐมนตรี ยัน ถอดสมณศักดิ์ 'พระธัมมชโย' ตามขั้นตอนของกฎหมาย จี้เข้ามอบตัวต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม - เดินหน้าตามโรดแมปเชื่อทุกอย่างจะดีขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงถึงการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการทั้งมาตรการทางปกครองของรัฐ ในเรื่องกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากมีการกระทำความผิด รวมถึงมาตรการทางสงฆ์ในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมหาเถรสมาคม เป็นผู้ดำเนินการอยู่ พร้อมย้ำว่าหากไม่มีการกระทำความผิดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงขอให้ยอมรับและเข้ามาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความเดือดร้อนต่าง ๆ ลดลง เช่น ที่หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณ เนื่องจากมีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมาก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการถอดสมณศักดิ์พระธัมมชโยได้มีการดำเนินการไปแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องทางพระ ซึ่งสำนักพุทธฯ จะหารือกับมหาเถรสมาคมในการพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยจะต้องใช้เวลาเนื่องจากมีคณะกรรมการอุทธรณ์และคณะกรรมการต่าง ๆ แต่หากยังไม่มอบตัวก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะปัญหาอยู่ที่ตัวบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า การประกาศใช้มาตรา 44 เพราะกฎหมายปกติ ไม่สามารถใช้ได้ จึงต้องใช้กฎหมายพิเศษ 

นายกฯยันเดินหน้าตามโรดแมปเชื่อทุกอย่างจะดีขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์ความไม่สงบและการเคลื่อนไหวจากกลุ่มต่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อโรดแมปหรือไม่ ว่า เชื่อว่าทุกคนทราบว่าอะไรเกิดขึ้นและใครเป็นคนทำ จึงขอให้ไปถามคนทำ เนื่องจากส่วนตัวกำลังพยายามทำให้ประเทศเกิดความสงบ และเรื่องโรดแมปได้เคยระบุไปแล้วว่าไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น และทุกอย่างจะคลี่คลายไปในที่สุด

ส่วนกรณีเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบคณะรัฐมนตรี เนื่องจากยังไม่มีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขแล้วนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รอก่อนอีกไม่นานจะมีการเปิดเผยให้รับทราบ พร้อมกับพระราชทานรายละเอียดรัฐธรรมนูญ

นายกฯโยนถาม"ประวิตร"ปมจัดซื้อเรือดำน้ำ-รอสรุปภาษีหุ้นชิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกระทรวงกลาโหม ว่า ให้ถามกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่รัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลพระราชบัญญัติงบประมาณต่าง ๆ ที่ออกไปแล้ว ซึ่งมีการวางแผนการใช้จ่ายของทุกหน่วยงานและเป็นไปตามแผนพัฒนากองทัพตามขั้นตอนอยู่แล้ว

ส่วนกรณีคณะกรรมวินิจฉัยภาษีอากร พิจารณาแนวทางเรียกเก็บภาษีเงินได้จาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีขายหุ้นชินคอร์ปให้กับเทมาเส็ก ปี 2549 เบื้องต้นคาดว่ามีมูลค่าภาษีกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท แต่จะหมดอายุความที่สามารถเรียบเก็บได้ ในวันที่ 31 มี.ค. 2560 นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังกำชับกรมสรรพากรให้ติดตามประชุมหน่วยงานและรายงานต่อรัฐบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ

นายกฯ สั่งเร่งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

พันเอกหญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจกับลูกหนี้ ไม่ให้ก่อหนี้ใหม่ และนำกลุ่มลูกหนี้เข้าสู่ระบบของแต่ละธนาคารรัฐที่จัดระบบสำหรับลูกหนี้กลุ่มนี้ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำกับฝ่ายความมั่นคง ว่าจะต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับขบวนการหนี้นอกระบบเป็นอันขาด

ทั้งนี้ ยังเน้นย้ำการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าสู่ระบบสวัสดิการเมื่อรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับผลประโยชน์จากรัฐบาลอยากเต็มเม็ดเต็มหน่วย และจะไม่มีข้ออ้างเรื่องของการรับรู้มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล / พร้อมกำชับให้หน่วยงานภาครัฐเร่งดำเนินการตามแผนพัฒนาคนพิการฉบับที่ 5 โดยเฉพาะการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ อาทิ การสรางลิฟท์ในรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้า และขนส่งมวลชนอื่นๆสำหรับผู้พิการเป็นต้น