ชาวโคราชแห่ปลูกหอมแบ่งขาย-น้ำเขื่อนเหลือ39%

ชาวโคราชแห่ปลูกหอมแบ่งขาย-น้ำเขื่อนเหลือ39%

ชาวโคราชแห่ปลูกหอมแบ่งขาย-น้ำเขื่อนเหลือ39%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวโคราช แห่ปลูกหอมแบ่งขาย ตามนโยบายรัฐที่ส่งเสริมให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนข้าวนาปรัง หลังน้ำในเขื่อนหลักเหลือน้ำแค่ 39%

ชาว อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่างพากันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกข้าวนาปรัง หันปลูกพืชใช้น้ำน้อยกันอย่างคึกคัก หลังชลประทาน งดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากน้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในช่วงวิกฤติ มีระดับน้ำเหลือน้อยกว่าทุกปี โดยเฉพาะ นางพรพิมล แซ่พลกรัง อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ต.สีมุม อ.เมืองนครราชสีมา ได้ปรับพื้นที่นาจำนวน 10 ไร่ ให้กลายเป็นแปลงปลูกหอมแบ่ง ซึ่งวันนี้อยู่ระหว่างการนำพันธุ์หอมแบ่งลงปลูกใหม่ๆ จึงต้องมาดูแลตลอดทั้งวัน

ทั้งนี้ นางพรพิมล แซ่พลกรัง เกษตรกรผู้ปลูกหอมแบ่ง เปิดเผยว่า ปกติแล้วบริเวณนี้จะอยู่ใกล้กับลำคลองธรรมชาติ ซึ่งจะสามารถปลูกข้าวนาปรังได้บางส่วน แต่ปีนี้น้ำในคลองเหลือน้อย จึงได้พากันปรับพื้นที่นาให้เป็นแปลงผัก เพื่อปลูกหอมแบ่ง ซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยโดยปลูกทั้งหมด 10 ไร่ ใช้เงินลงทุน ค่าต้นพันธุ์ ค่าจ้างคนงาน ค่ารดน้ำ ค่าไฟ และค่าปุ๋ย รวมประมาณ 200,000 บาท ระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 50 วัน ซึ่งหากถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็คาดว่าจะได้ต้นหอมแบ่งประมาณ 35 ตัน โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่ ส่วนราคาของต้นหอมแบ่งนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ ตอนนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 25 - 30 บาท แต่ถ้าเป็นช่วงที่ขึ้นสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว ถึงกิโลกรัมละ 100 บาท ดังนั้น ก็ต้องรอลุ้นกันอีกทีว่าช่วงเก็บเกี่ยวจะได้ราคาดีมากน้อยเพียงใด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก 5 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้เหลือปริมาณน้ำเพียง 39% ของความจุกักเก็บ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล