เทพพิทักษ์โต้ขโมยเงินวัดซึ้งใจพชร์ให้โอกาส

เทพพิทักษ์โต้ขโมยเงินวัดซึ้งใจพชร์ให้โอกาส

เทพพิทักษ์โต้ขโมยเงินวัดซึ้งใจพชร์ให้โอกาส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“เทพพิทักษ์” โต้! ขโมยเงินวัด หายหน้าขับรถตู้โดยสารรายได้ติดลบอาศัยนอนวัด ซึ้งใจ “พชร์ อานนท์” ให้โอกาสทำงานอีกครั้ง

อยู่ ๆ อดีตแฟนสาวก็ออกมาแฉผ่านโซเชียลว่า ขโมยเงินในตู้บริจาควัด สำหรับ “เทพพิทักษ์ แอสละ” เด็กปั้นของ “พชร์ อานนท์” งานนี้เจ้าตัวขอชี้แจงผ่าน รายการ “ปากโป้ง” ทาง “ช่อง 8” เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์ โดยมี “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” เป็นพิธีกรว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ “อดีตแฟนสาว” กล่าวหา วอนสื่ออย่าเอาไปเกี่ยว เผยดีใจที่ “พี่พชร์” ให้โอกาสอีกครั้ง สัญญาจะเป็นคนใหม่ เลิกเหล้า เลิกเกเรแน่นอน 

อดีตแฟนสาว ออกมาโพสต์แฉ พูดเหมือนกับว่าเราไปขโมยเงินในตู้บริจาควัด ? 
“ผมกับแฟนคนนี้เราขาดกันตั้ง 5 - 6 เดือนแล้ว ผมก็อยากถามเขาว่า มาลงแบบนี้เพื่ออะไร เพราะมันทำให้ผมเสียชื่อ และเสียงาน ถ้ามีหลักฐานจริง ก็ไปแจ้งตำรวจแล้วเอาใบหลักฐานมายืนยันแบบนั้นดีกว่า”
 
เขายังแฉอีกว่าตั้งแต่เราไม่ได้ทำงาน เขาเป็นคนหาเงินให้เราใช้ ? 
“สมัยก่อนตอนที่ผมทำงานมีเงิน ผมไม่ให้เขาทำงานเลย ให้เงินเขาวันละ 1,000 บาท แต่พอช่วงที่ผมช็อต เขาเริ่มไปทำงานร้านอาหาร แต่ผมไม่เคยเอาเงินเขาสักบาท มีแต่ผมที่ให้ สุดท้ายผมต้องขายรถ สิ่งที่ผมให้เขา เขารู้อยู่แก่ใจ แต่สิ่งที่เขาพูดให้น้องเขาคิดว่ามันเป็นความจริงไหม อย่ามาพูดแบบนี้” 

เราให้อะไรเขาบ้าง ? 
“ผมให้เงินเขาใช้วันละ 1,000 บาท งานไม่ต้องทำ ให้แม่เขาเดือนละหมื่น ส่งค่าห้องให้ด้วย โทรศัพท์เขาอยากได้ และขว้างทิ้งเป็นว่าเล่น เดือนละเป็นแสน อันนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ได้พูดเพื่อให้น้องเขาโกรธ น้องไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ข่าวมันก็มาเกี่ยวโยงกับผม อยากถามว่าทำเพื่ออะไร แต่ไม่ได้ติดต่อถามเขา คือที่เลิกกันมาผมก็เสียใจ รักและเป็นห่วงเหมือนกัน ผมคอยดูข่าว แต่ถ้าทำแบบนี้ก็คนละทางกันดีกว่า” 

เห็นว่าหมดตัวไปเป็นล้าน ? 

“ไม่ได้มาหมดตัวไป เพราะน้องเขา หรือหมดเพราะน้องหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมก็หมดไปกับเขาเยอะ ผมไม่เคยได้อะไรเลย สาบานต่อหน้าไฟเลยก็ได้ ผมขอแยกดีกว่าเราไปด้วยกันไม่ได้ เวลาที่เขาไลฟ์ มีแฟนคลับถามว่าพี่เทพไปไหน ทำไมต้องแสดงว่าเทพพิทักษ์อยู่กับเขา ผมจะบอกเลยว่าผู้หญิงคนนี้รักเฉพาะเงิน เราตัดขาดกันตั้งนานแล้ว ที่เลิกกันครั้งนี้มันเป็นเรื่องการใช้ชีวิตอยู่เราไปด้วยกันไม่ได้ ผมอยู่ด้วยมีแต่เสียงาน ทำให้ชื่อเสียงผมเสียหมด ผมขอแยกดีกว่าครับ” 

เหมือนเขาเกาะกระแสเราหรือเปล่า ? 
“ถ้าน้องเขาอยากดัง ให้น้องดังเรื่องงานดีกว่า อย่าดังในสังคมเฟซบุ๊กให้เขาด่า น้องไลฟ์สด ก็รู้ว่าไม่มีใครชอบ ผมเองยังโดนด่าเลย การโพสต์อะไรลงไป อย่างเรื่องตู้บริจาคมันไม่สมควร มันทำให้ผมเสีย มีคนเข้ามาถามผมเรื่องนี้ตลอด ตอบไปก็เหมือนผมแก้ตัว น้องพูดได้ไงว่าผมขโมยของวัด ถ้าน้องอยากดังบอกว่าพี่ขโมยระฆังวัดดีกว่า”

มันกระทบกับเราขนาดไหน ? 
“ผมคิดอยู่ในใจว่าพอผมกลับมาทำงานในวงการ จะต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เขามาโพสต์ตอนนี้ ตอนที่ผมกำลังจะมีงาน เขาทำเพื่ออะไร อยากเด่นอยากดัง อยากเก่ง ต้องใช้ความสามารถตัวเองซิ ทำอย่างนี้ไม่ดี ทำให้คนเขาด่า คุยกันดีใช้เหตุผลดีกว่า”

พี่พชร์ อานนท์ ให้โอกาสอีกครั้ง รู้สึกยังไง ? 
“ไม่คิดไม่ฝัน เพื่อนดาราส่งไลน์มาบอกเทพกลับมาเล่นหนังด้วยกันใหม่ ขอบคุณ พี่พชร์-อานนท์ สัญญาว่ารอบนี้จะทำให้ดีที่สุด” 

พี่พชร์โพสต์ไม่ค่อยไว้ใจเรื่องพฤติกรรมของเรา ? 
“ได้เข้าไปอ่าน ก็มีแฟนคลับเข้าไปถามพี่พชร์ว่า เอาพี่เทพกลับมาทำไม ให้โอกาสทำไม ไม่กลัวงูกัดเหรอ อย่าไปว่าพี่พชร์เลย พี่เขาให้อภัย และให้โอกาสผม คนอย่างผมไม่ทำแบบนั้นด้วย ยิ่งให้โอกาส จะยิ่งปรับปรุงตัวให้ดีที่สุด”

ที่ผ่านมาชีวิตแย่ขนาดไหน ? 
“เอาเรื่องครับ ไปนอนตามวัดเลย คิดในใจว่าไม่ได้กลับมาแล้ว ที่ผ่านมาขอโทษด้วยที่ทำตัวแย่ในรอบที่แล้ว มารอบนี้ผมจะไม่ทำตัวอย่างเดิม คอยดูแล้วกันว่าจะไม่ทำตัวเหมือนเก่าแล้ว” 


ตอนนี้ยึดอาชีพขับรถตู้ ? 
“มีแฟนคลับเข้ามาถามว่าทำไมพี่เทพต้องไปนอนวัด คุณต้องมาดูหน้างานของผมก่อน ว่าผมสามารถเช่าห้องได้หรือเปล่า 3 ชั่วโมง ออกไปขับรถ เสร็จแล้วก็กลับมานอนอยู่วัด ผมเช่ารถตู้วันหนึ่ง 1,300 บาท คนโดยสารก็ไม่ได้ขึ้นเยอะนะ บางวันยังติดลบ เราต้องประหยัดต้นทุนเราไหว เพราะเราก็หมดตัว มีญาติพี่น้องเหมือนกัน จะไปพักกับเขาก็เกรงใจครับ นอนวัดดีกว่า”

ได้ยินว่ายังมีติดเหล้าอยู่ ? 
“ตั้งแต่มีเรื่อง และมาขับรถตู้ ไม่ได้กินเลยครับ ผมไม่ได้บอกว่าเลิก ขอเป็นเทศกาล หลังปิดกล้องนิด ๆ หน่อย ๆ สังสรรค์ ผมรับปากเลยว่าวันธรรมดาไม่ดื่ม เพราะว่ารอบที่แล้วผมเสียเละเทะ รายได้ตอนนี้ก็ได้มาวันประมาณ 400 - 500 บาท บางวันติดลบก็มี พออยู่ได้ พอมีข้าวกิน ตอนนี้รายได้หลักมาจากการขับรถตู้

ส่วนงานในวงการพี่พชร์ค่อย ๆ ทยอยให้ แต่ก็ต้องดูความประพฤติของผมเป็นอย่างไร เขาก็คงยังกลัวอยู่ แต่ยังดีที่พี่เขาให้โอกาส” 

จากภาพลักษณ์จากครั้งก่อน กลัวไหมว่าคนจะไม่จ้างงานเราเหมือนครั้งก่อน ? 
“ทุกวันนี้ก็ยังไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมาเลย ตอนนั้นผมก็ยอมรับว่าผมผิด กลับมารอบนี้ผมต้องปรับตัวผิด แล้วแต่ว่างานจะมีไม่มีงานกลับมา” 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล