ตร.เคลียร์รถขวางวัดพระธรรมกาย-เด้งผกก.คลองหลวง

ตำรวจเคลียร์รถจอดขวางจราจรรอบวัดพระธรรมกาย ขณะที่ ผบช.ภ.1 เด้ง ผกก.สภ.คลองหลวง ช่วยงาน ศปก.ภ.1 ขาดจากตำแหน่ง ยังไม่ชัดปมวัดพระธรรมกาย
ที่วัดพระธรรมกาย ช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง เข้าเคลียร์ยานพาหนะที่จอดกีดขวางการจราจรอยู่ตลอดแนวถนนบางขัน - หนองเสือ ฝั่งขาเข้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยเฉพาะช่วงบริเวณแนวของวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ ทางเข้าประตูที่ 7 จนถึง ประตู 5 - 6 เนื่องจากพบปัญหาการจราจรติดขัด และทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ให้ย้ายรถออกจากพื้นที่ และนำกรวยจราจร มาตั้งเพื่อกันรถที่จะเข้ามาจอดภายหลังจากนี้
สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าว เป็นพื่นที่ควบคุมพิเศษตามคำสั่ง คสช. มาตรา 44 และตามสั่งการปฏิบัติการในพื้นที่ควบคุมของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งหนึ่งในข้อห้าม ระบุว่า ห้ามผู้ใดที่ไม่ใช่เจ้าพนักงานจอดรถ หรือยานพาหนะ บนเส้นทางสาธารณะในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่จะได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน มีโทษ จำคุก ไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
ด้านความเคลื่อนไหวของศิษยานุศิษย์ที่ตลาดกลางคลองหลวง ได้มีการนำป้ายข้อความจำนวนหลายอัน มาติดไว้บริเวณใต้แผ่นไวนิลขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่หน้าตลาดกลางคลองหลวง โดยมีใจความสำคัญ ให้ยกเลิกการใช้กฎหมายมาตรา 44 และมีการเชิญชวนลูกศิษย์มาร่วมสวดมนต์ในเวลา 18.00 น. ของทุกวันอีกด้วย
เด้งผกก.คลองหลวงช่วยงานภ.1ไม่ชัดปมวัดพระธรรมกาย
มีคำสั่งจากตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 57/2560 ให้ พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 1 และมอบหมายให้รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการดังกล่าว โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า มอบหมายให้ พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง
ตร.แจงเด้งผกก.คลองหลวงเชี่ยวชาญพื้นที่
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีผู้ มี คำสั่งให้ พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 1 หรือ ศปก. บช.ภ.1 และให้ พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รรท.ผกก.คลองหลวง ว่า มีคำสั่งจริง เนื่องจาก ผบช.ภ.1 ต้องการตัวมาช่วยงานที่ ศปก. เนื่องจาก พ.ต.อ.เขมพัทธ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านพื้นที่ และมีความจำเป็นต้องใช้
งานในส่วนตรงนี้ เพราะงาน ศปก.เป็นงานที่สำคัญ ต้องดูแลภาพรวม และมอบให้ พ.ต.อ.สามารถ รับผิดชอบแทน เพื่อที่จะให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนกระแส พ.ต.อ.เขมพัทธ์ เป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกายนั้น ไม่ใช่ แต่เป็นการใช้งานที่เหมาะสมกับพื้นที่มากกว่า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนจะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มี เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรามีวินัยรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ 3,000 นายต่อวัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละวัน มีการประเมินสถานการณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เนื่องจากเราเป็นฝ่ายสนับสนุนกำลัง ส่วนเรื่องยุทธการต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับดีเอสไอเป็นผู้กำหนด โดยยอมรับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเป็นห่วงในเรื่องของมือที่สาม เพราะที่ผ่านมามีการจับกุมผู้ต้องหาหลายราย ทั้งที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มี ได้มีการสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ เพิ่มความเข้มข้นในการคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาในพื้นที่ พร้อมเฝ้าระวังด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดพร้อมปรับลดกำลังไปตามสถานการณ์ ส่วนปัญหาราคาข้าวกล่องที่มีการปรับราคาจาก 80 บาท เหลือ 50 บาท นั้น ได้มอบหมายให้ให้แต่ละหน่วยไปดำเนินการและจัดการกันเอง เพื่อที่จะลดข้อครหาต่างๆ
DSI คัดกรองพระและศิษย์วัดเข้าออกตลาดคลองหลวง
บรรยากาศที่วัดพระธรรมกาย บริเวณถนนเลียบคลองแอน ฝั่งตลาดกลางคลองหลวง เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่จากสำนักพระพุทธศาสนามาตั้งโต๊ะเพื่อคัดกรองพระภิกษุสงฆ์และสามเณร ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง โดยจะทำการตรวจสอบใบสุทธิสงฆ์ และซักถามเหตุผลของการเดินทางมาที่วัดพระธรรมกาย
ซึ่งตลอดทั้งวันมีพระสงฆ์จากต่างจังหวัด เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อาทิ พระสงฆ์จากวัดแสงทอง จ.เชียงใหม่ ที่เดินทางมาพร้อมกับสามเณรอีก 2 รูป โดยให้เหตุผลว่า เดินทางมาเพื่อร่วมปฏิบัติธรรมกับทางวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอตรวจสอบใบสุทธิตามขั้นตอน โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอยืนยันว่า ไม่สามารถให้เข้าไปภายในพื้นที่ได้ โดยจะนำพระสงฆ์และสามเณร ไปส่งยังวัดบางขัน ซึ่งเป็นวัดในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่พระสงฆ์บางหลายรูปที่เดินทางออกมาจากวัดพระธรรมกาย ก็มาลงทะเบียนตรวจสอบใบสุทธิ และกลับภูมิลำเนาด้วยเช่นกัน
ด้าน พ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผบช.สำนักคดีทรัพย์สิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมาตรวจสอบดูความเรียบร้อยรอบวัดพระธรรมกาย ซึ่งยังคงมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจ 3 ชั้น ทั้งภายในและภายนอกพื้นที่เพื่อคัดกรองบุคคล ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่าภาพรวมทุกจุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ทั้งนี้ ไม่มีความกังวลว่าจะมีผู้ชุมนุมเข้ามาเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มว่าพระสงฆ์มาเข้าร่วมชุมนุมที่ตลาดกลางคลองหลวงวันนี้ลดลง และเดินทางออกไปดป็นจำนวนมาก
ส่วนจะมีการเข้าปฏิบัติการภายในตลาดกลางคลองหลวงหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องผลการประชุมจากกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนก่อน