DSIปัดนายกฯสั่งการพิเศษค้นวัดพระธรรมกายย้ำให้ยึดกม.

DSIปัดนายกฯสั่งการพิเศษค้นวัดพระธรรมกายย้ำให้ยึดกม.

DSIปัดนายกฯสั่งการพิเศษค้นวัดพระธรรมกายย้ำให้ยึดกม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อธิบดีดีเอสไอ ประชุมคดีวัดพระธรรมกาย ระบุ นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการอะไรพิเศษ ด้านโฆษกดีเอสไอ เผยขอออกหมายเรียก 'อัยย์ เพชรทอง' พร้อมพวก 2 คน รายงานตัวภายในวันที่ 3 มี.ค. นี้ ขณะที่ พระสนิทวงศ์ ขอรัฐปล่อยสัญญาณโทรศัพท์

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประชุมประเมินสถานการณ์และแนวทางปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย 
อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และกรมการปกครอง

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวก่อนเข้าประชุมสั้น ๆ กรณีนายกรัฐมนตรีได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ารายงานสรุปสถานการณ์ที่เกี่ยวกับคดีวัดพระธรรมกาย ว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีข้อสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ให้ดำเนินการตามกฎหมาย

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น กรณีมีกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ยืนยันว่า ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว ส่วนเรื่องการปฏิบัติก็เป็นเรื่องปกติ

นอกจากนี้ ยังพบว่า สถานการณ์ภาพรวมยังไม่พบความเคลื่อนไหว หลังมีรายงานข่าวว่า มีความพยายามในการยกระดับการชุมนุมของกลุ่มพระสงฆ์และคณะลูกศิษย์ ซึ่งจะมีการประชุมสรุปสถานการณ์ภาพรวมอีกครั้ง


พระสนิทวงศ์ขอรัฐปล่อยสัญญาณโทรศัพท์ 

พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย โชว์ภาพจากกล้องวงจรปิด ระบุว่า เมื่อเย็นวานนี้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ 2 - 3 คน เข้ามาภายในอาคาร 60 ปี โดยพลการ เพื่อมาดึงสายสัญญาณกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในอาคารดังกล่าวออก พร้อมจับกุมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวัดไป และเพิ่งจะปล่อยตัวเมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยทางวัดได้ตั้งข้อสังเกตว่าการมาของเจ้าหน้าที่เป็นการมาโดยพลการ จึงไม่ทราบว่ามีวัตุประสงค์ใด และหวั่นว่าจะนำสิ่งของที่ผิดกฎหมาย มาไว้ในพื้นที่อาคาร หากจะเข้ามาตรวจค้น ก็ควรจะมาแบบปกติ

ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ได้ข้าวกล่องจำนวน 300 กล่อง มาให้ทางวัดเมื่อวานนี้ พระสนิทวงศ์ ระบุว่า ข้าวกล่องทั้งหมด ไม่สามารถฉันได้เพราะเสียทั้งหมด และไม่เพียงพอต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในวัดซึ่งมีเป็นหมื่นคน พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวอีกว่า การที่เจ้าหน้าที่ ปิดกั้นเสบียงอาหาร สัญญาณโทรศัพท์และการสัญจร ถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำที่ยิ่งกว่าสงคราม จึงขอให้ช่วยปล่อยสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพราะจะได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐได้สะดวก รวมถึงติดต่อครอบที่จังหวัดยะลา เพราะทุกคนเป็นห่วงความปลอดภัยของพระสงฆ์ในวัด

นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงกรณีที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้มีบุคคลไม่ทราบชื่อ ถือใบกระท่อมมาที่หน้าประตู 7 โดยยืนยันว่าบุคคลดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายแน่นอน และไม่ทราบว่าทำเพราะจุดประสงค์ใด รวมไปถึงเรื่องการจับผิด ของวัดพระธรรมกาย เพราะขณะนี้มีข้อความเผยแพร่ทางโซเชียลมีเยอะมาก โกยเฉพาะภาพฆ้อน ชี้แจงว่าทำเป็นสีสัน ใช้ในพิธีไม่มีการนำมาขายแน่นอน


DSIขอมวลชนออกจากตลาดกลางคลองหลวง 

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง ทั้งพระสงฆ์ และประชาชนออกจากพื้นที่ โดยในเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่จะเข้าไปประกาศทำความเข้าใจกับประชาชนถึงแนวทางปฏิบัติ ในการให้ออกจากพื้นที่ รวมถึงพิจารณาออกหมายเรียกกับกิจกรรมที่สนับสนุนการชุมนุม เช่น การจัดระเบียบยานพาหนะ และรถที่นำเต็นท์เข้ามาในพื้นที่ รวมถึงจะตรวจสอบใบสุทธิสงฆ์ เพื่อแยกพระสงฆ์ และคนที่แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ออกจากกัน

สำหรับตลาดกลางคลองหลวง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะห้ามไม่ให้มีการชุมนุม รวมถึงเจ้าของตลาดก็ได้มีการไปแจ้งความไว้แล้ว แต่สาเหตุที่ประชาชนยังไม่ออกจากพื้นที่ เนื่องจากบางส่วนเป็นผู้สูงอายุที่ถูกชักชวนเข้ามา และเข้าใจว่าไม่มีความผิด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อนเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจและประกาศเตือนให้ทราบ เพราะไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย


ผู้ค้าตลาดเมืองแก้วมณีโอดยกเลิกม.44คุมวัดพระธรรมกาย 

กลุ่มพ่อค้าแม้ค้า ตลาดเมืองแก้วมณี กว่า 10 ราย ได้นำป้ายข้อความต่าง ๆ ยืนถือที่บริเวณทางเจ้าประตูที่ 5 วัดพระธรรมกาย เพื่อเรียกร้องให้ทางรัฐบาลยกเลิกการใช้กฎหมาย มาตรา 44 เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน และไม่มีรายได้จากการปฏิบัติการปิดล้อมของเจ้าหน้าที่

โดยตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้า ระบุว่า ผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ ที่ขายของภายในเมืองแก้วมณีแห่งนี้ ทั้งขายอาหาร ขายผลไม้ ขายเครื่องดื่ม และอื่น ๆ อีกมากมาย ต่างได้รับผลกระทบจากการใช้กฎหมายมาตรา 44 เพราะร้านค้าไม่สามารถค้าขายได้มาแล้ว 14 วัน ไม่มีรายได้เข้ามา แถมยังต้องเสียค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ รายเดือนอีก ใครจะรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวนี้ ดังนั้น จึงอยากจะวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยกเลิกกฎหมายมาตรา 44 นี้ ด้วย เพื่อพวกตนจะได้มีรายได้ไปเลี้ยงครอบครัวได้


DSIออกหมายเรียก'อัยย์'-พวกรายงานตัว3มี.ค.

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผย ว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกบุคคลที่มีพฤติกรรม ขัดขวางและปลุกระดมในพื้นที่ประกาศมาตรา 44 ประกอบด้วย 1. นายอัยย์ เพชรทอง 2. นางกชกร ไชยวาน และ 3. นายพยุง อุณหิต โดยให้มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ที่ บก.ตชด.ภ.1 ในวันที่ 3 มีนาคม นี้

ส่วนกรณีมีข่าวว่า นายรุ่งโรจน์ เภกะนันทน์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาเคลื่อนไหวร่วมกับศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ในพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวงนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาอยู่

ส่วนการเข้าออกภายในวัดเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกกับพระสงฆ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการปฏิบัติด้วยความละมุนละม่อม อนุญาตให้นำอาหารปรุงสุก ยารักษาโรคเข้าไปภายในวัดได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับการประชุมระะหว่างอธิบดี DSI ร่วมกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ แต่กำชับว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้งภายในและนอกวัด ซึ่งทางการข่าวเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่า พระธัมมชโย ยังคงภายในวัดพระธรรมกาย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล