ปชช.ต่อแถวกราบพระบรมศพแน่น-เข้มจุดคัดกรอง

ประชาชน ทยอยกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ด้าน กรมการปกครอง นำพสกนิกร 1,500 คน จาก จ.พัทลุง จันทบุรี ประจวบคีรีขันธุ์ ร่วม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มจุดคัดกรอง -'พล.อ.ธนะศักดิ์' ตรวจความพร้อมการยกเสาเอกพระเมรุมาศ มั่นใจการก่อสร้างแล้วเสร็จเดือน มิ.ย. นี้
ประชาชนเดินทางเข้าแถวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดย สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนชุดแรก เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพผ่านประตูวิเศษไชยศรี ตั้งแต่เวลา 04:00 น. ก่อนที่ในเวลา 08:00 น. จะให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพผ่านประตูมณีนพรัตน์ โดยประชาชนที่จะเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพจะต้องมาเข้าแถวต่อคิวตั้งแต่บริเวณเต็นท์ ก. ข้างกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนประชาชนที่จะเข้าชมนิทรรศการเย็นศิระเพราะพระบริบาล จะต้องเข้ามารอแถวต่อคิวที่บริเวณเป็น ซ. ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำเข้าไปเป็นเป็นหมู่คณะ
ส่วนด้าน มาตรการรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ เทศกิจ ยังคงตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านเข้าออกจุดคัดกรองทั้ง 6 จุด อย่างเข้มงวดโดยประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นทียังคงจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นสัมภาระและร่างกายเพื่อป้องกันการนำอาวุธร้ายแรงเข้ามาในพื้นที่
เช่นเดียวกับเต็นท์บริการร่วมด้วยช่วยกันประชาชนที่ในช่วงเช้าวันนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำเต็นท์คอยให้บริการรับแจ้งเหตุจากประชาชนรวมถึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับประชาชนด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนยุทธการและการข่าว สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในวันนี้ (24 ก.พ.60) จะมีการนำประชาชนจาก 3 จังหวัด จำนวน 1,500 คน เดินทางเข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยวันนี้เป็นคิวของ จ.พัทลุง 500 คน , จ.จันทบุรี 500 คน และ จ.ระจวบคีรีขันธุ์ 500 คน รวมทั้งสิ้น 1,500 คน โดยให้แต่ละจังหวัดเดินทางถึงจุดนัดหมายในเวลา 05.00 น. 05.30 น. และ 06.00 น ตามลำดับ
ทั้งนี้ จะดำเนินการนำประชาชาชนในรูปแบบใหม่เช่นนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 แต่จะยกเว้นวันหยุดราชการ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่จะไม่มีการนำประชาชนเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ
ประชาชนทยอยเข้ากราบพระบรมศพต่อเนื่อง
บรรยากาศที่พระบรมมหาราชวังและมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ประชาชนยังคงทยอย เข้าแถวรอกราบถวายบังคม พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง กันอย่างต่อเนื่อง แม้สภาพอากาศจะค่อนข้างร้อนอบอ้าว
ซึ่งจากสอบถามเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ได้สรุปยอดรวมประชาชนเข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ ล่าสุด เวลา 11.00 น. มีจำนวน 15,882 คน ส่วนยอดประชาชนเข้าชมนิทรรศการเย็นศิระเพราะพระบริบาล ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงขณะนี้ มีประชาชนเข้าชมแล้วกว่า 1,000 คน
'ธนะศักดิ์'ตรวจความพร้อมการยกเสาเอกพระเมรุมาศ
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมความพร้อมพิธีบวงสรวงการก่อสร้าง และยกเสาเอกพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ โดยเป็นการตรวจความพร้อมของสถานที่บวงสรวงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยพร้อมทั้งทำการทดสอบการยกและการวางเสาเอก ตามกำหนดการจริง เพื่อให้เกิดความมั่นคง แข็งแรง และเป็นไปตามกำหนดเวลาฤกษ์ในวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 4 ระหว่างเวลา 10.01 นาที จนถึงเวลา 10.55 นาที ซึ่งเป็นฤกษ์ใหญ่ ที่ใช้ในการประกอบการมงคลทุกอย่างเป็นปฐมฤกษ์ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้จะเป็นการซักซ้อมเสมือนจริง โดยการทดลองตั้งเสาเอกของพระเมรุมาศ จำนวน 1 ต้น ที่มีความสูง 21 เมตร น้ำหนัก 20 ตัน จะใช้เครนจำนวน 2 ตัว ที่มีความหนัก 200 ตัน ในการยก และสริงอีก 2 คู่ ใช้เวลายก 15 นาที และใช้เวลาขันน็อตอีก 15 - 20 นาที
ส่วน เสาโทพระเมรุมาศ อีก 3 ต้น จะเคลื่อนย้ายมาจาก อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มาถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเวลา 23.00 น. ของวันพรุ่งนี้ โดยจะเคลื่อนย้ายให้แล้วเสร็จภายใน วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ นี้ และมั่นใจว่าในวันพิธีฯ จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การก่อสร้างพระเมรุมาศ จะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนจะมีการตั้งบูท ให้สื่อมวลและประชาชนเข้าชม โดยมีวิทยากรให้ความรู้
หญิงชาวกทม.นำแนวคิดพอเพียงปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
บรรยากาศที่พระบรมมหาราชวังและมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ประชาชนยังคงทยอย เข้าแถวรอกราบถวายบังคม พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง กันอย่างต่อเนื่อง
โดย นางชัญญาภัทธ์ เกษริยะการณ์ อายุ 56 ปี ชาว สวนหลวง ร.9 กรุงเทพมหานคร ระบุว่า รักพระองค์มาก และอยากจะมาแม้จะมาแล้วสองครั้งก็ตาม ที่ผ่านมาเห็นภารกิจที่พระองค์ได้ทำเพื่อประชาชนก็รู้สึกอิ่มใจ และปลาบปลื้มใจทุกครั้งที่ชมข่าวพระราชสำนัก รู้สึกว่าพระองค์ทำเพื่อประชาชนของพระองค์จริง ๆ ทั้งนี้ ตัวเองก็ได้น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ในเรื่องการออม จดบัญชีรายรับรายจ่ายประจำทุกเดือน มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันด้วย