นายกท่องเที่ยวกระบี่ชี้ถ่านหินอาจทำสูญรายได้2หมื่นล้าน/ปี

นายกท่องเที่ยวกระบี่ชี้ถ่านหินอาจทำสูญรายได้2หมื่นล้าน/ปี

นายกท่องเที่ยวกระบี่ชี้ถ่านหินอาจทำสูญรายได้2หมื่นล้าน/ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวกระบี่ ระบุ ถ่านหินอาจทำลายท่องเที่ยว คาด ระยะยาวสูญรายได้กว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี 'ปริญญา เทวานฤมิตรกุล' ขอรัฐบาลหยุดสร้าง ชี้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นายวัฒน์ เริงสมุทร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.กระบี่ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคเอกชนใน จ.กระบี่ เกือบทั้งหมดไม่เห็นด้วยกับการเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยเราไม่ได้ค้านการสร้างโรงไฟฟ้า เพียงแต่มีพลังงานทางเลือกอีกหลายอย่างที่เหมาะสมมากกว่าถ่านหิน เพราะเป็นที่รู้กันว่าถ่านหินนำพาไปสู่เรื่องของมลภาวะต่างๆ มากมาย ซึ่งรัฐบาลประกาศชัดเจนในเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว อันเป็นรายได้หลักของประเทศ แต่การประกาศเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน นั้นเป็นการทำลายการท่องเที่ยวอย่างมาก ด้วยเหตุที่ว่าทุกวันนี้ จ.กระบี่ มีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวปีละ 7.5- 8 หมื่นล้านบาท และนักท่องเที่ยวที่มายัง
กระบี่ เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีกำลังซื้อสูง ใช้จ่ายต่อหัวต่อคนสูงมาก ดังนั้นถ้าพวกเขาทราบเรื่องว่าจะมีถ่านหินในพื้นที่ เขาอาจจะยกเลิกการเดินทางมา ความเสียหายหายในช่วงแรกๆอาจไม่มากนัก แต่มีการพูดกันปากต่อปาก นักท่องเที่ยวจะหดหายๆไปเรื่อย จึงคาดว่าจะส่งผลกระทบมากกว่าครึ่งของรายได้จากการท่องเที่ยว คือไม่น่าต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้แล้ว ตนเองยังได้รับข่าวสารมาว่า การก่อสร้างนี้จะนำเทคโนโลยีมาจากจีน ซึ่งตรงนี้ยิ่งเพิ่มความไม่มั่นใจ เพราะถ้าเป็นเรื่องของถ่านหิน เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น หรือ เยอรมนี น่าจะได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่า ดังนั้นจึงอยากให้ทางรัฐบาลออกมาชี้แจงประเด็นนี้ด้วย


ปริญญาขอรบ.หยุดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า การตัดสินใจเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ รัฐบาลแน่ใจหรือว่าได้คุ้มเสีย ซึ่งการทำให้ 'ถ่านหิน' ที่เป็นพลังงานที่สกปรกที่สุด กลายเป็น พลังงานสะอาด อย่างที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตโฆษณานั้น เท่าที่ทราบยังไม่มีที่ไหนที่เอามาใช้ได้จริงเลย เพราะแม้ว่าอาจจะเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติต้นทุนจะสูงมากจนไม่คุ้มที่จะทำ เหตุผลของ กฟผ. ที่บอกว่าเลือกสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพราะราคาถูกจึงขัดกันเองในตัว เพราะถ้าจะทำให้โรงไฟฟ้าถ่านหินไม่สกปรก ก็จะไม่ราคาถูกอีกต่อไปและเทคโนโลยีใหม่ที่อ้างว่า 'สะอาด' นั้น ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของสภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จะทำให้น้ำท่วมภาคใต้บ่อยขึ้น และที่สำคัญคือพื้นที่ที่จะก่อสร้างที่กระบี่ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ เป็นพื้นที่ประมงชายฝั่งสำหรับชุมชน และยังเป็นอยู่ในเขตพื้นที่แรมซาร์ หรือพื้นที่ชุมน้ำที่มีความสำคัญในระดับระหว่างประเทศ การเอาโครงการที่มีข้อสงสัยเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปสร้างในพื้นทีละเอียดอ่อนอย่างนี้ ก็ต้องมีคนคัดค้านแน่ 


ทั้งนี้ นายปริญญา กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของ คสช. ถือว่า พลาดในทางการเมือง เสียงสนับสนุนในภาคใต้หายไปมาก และถ้าจะบอกว่าภาคใต้จำเป็นต้องมีโรงไฟฟ้า เพราะมีไฟฟ้าสำรองน้อยที่สุด อันนี้ กฟผ. หลงประเด็น ชาวบ้านไม่ได้ค้านโรงไฟฟ้า แต่ค้านถ่านหิน ซึ่งเรื่องนี้ได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งความสุ่มเสี่ยงในเรื่องผลกระทบต่อระบบนิเวศของกระบี่ และความสุ่มเสี่ยงในทางการเมืองด้วย ทางเลือกอื่นยังพอมี โดยเห็นว่าขณะนี้โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่รัฐบาลควรจะถอยก่อน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล