ม็อบต้านโรงไฟฟ้าฮือทำเนียบ-แกนนำระดมคนประท้วง

กลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันฯ ต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ประกาศ ปักหลักชุมนุมคัดค้านหน้าทำเนียบ เรียกร้องจนกว่าจะยุติโครงการ ขณะที่ แกนนำ ไม่ยอมรับมติ กพช. ระดมมวลชนทั่วประเทศประท้วง

บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน จาก จ.สงขลาและกระบี่ ภายหลังนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้เดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เคยชะลอไว้ นายประสิทธิชัย หนูนวล ได้แถลงการณ์ในทันทีว่า ทางเครือข่ายจะปักหลักชุมนุมคัดค้านโครงการอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อจนกว่ารัฐบาลจะยุติการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และจะมีประชาชนในพื้นที่ขึ้นมาร่วมชุมนุมอีก พร้อมระบุว่าเหตุที่นายกรัฐตรีอ้างในการเดินหน้าโครงการ เป็นเหตุผลที่ไร้เดียงสา ฟังข้อมูเพียงด้านเดียว ทั้งนี้ หากรัฐบาลใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ จะได้รู้ว่ารัฐบาลชุดนี้ใช้กำลังกับประชาชนที่ออกมาเรียกร้องเรื่องสิ่งแวดล้อม 

ทั้งนี้ ภายหลังแถลงการณ์ นายประสิทธิชัย ได้นำมวลชนเดินเข้ามุ่งหวังเข้าภายในทำเนียบ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำแพงมนุษย์ปิดกั้นไว้ จนเกิดการกระทบกระทั่งกับผู้ชุมนุมเล็น้อย ก่อนเจ้าหน้าที่ถอยกับมาตั้งกำแพงมนุษย์ และเข้าเจรจากับแกนนำว่าเป็นการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ แต่แกนนำยืนยันจะปักหลักอยู่บริเวณหน้าทำเนียบเช่นเดิม

ด้านนายสมนึก กรดเสือ แกนนำชาวบ้าน ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ หนึ่งในแกนนำต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) สั่งเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด ที่ จ.กระบี่ นั้น ทางมวลชนเห็นว่าเป็นมติที่ไม่เป็นธรรมกับคนในพื้นที่ และไม่ยอมรับมติดังกล่าว และจะปักหลักหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลต่อไป โดยจะมีการระดมมวลชนจากทั่วประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ให้ขึ้นมารวมตัวกันที่หน้าทำเนียบ และจะชุมนุนต่อเนื่องจนกว่า กพช. จะเปลี่ยนแปลงมติ ส่วนจะมีการตั้งเวทีหรือมีการทำกิจกรรมอื่น ๆ อีกหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ต้องรอดูสถานการณ์เสียก่อน

แกนนำต้านถ่านหินระบุรัฐบาลไม่ฟังความเห็นต่าง

นายสมนึก กรดเสือ แกนนำชาวบ้าน ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ หนึ่งในแกนนำต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า มติการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่สั่งเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ นั้น แสดงให้เห็นว่าทางรัฐบาลไม่รับฟังกลุ่มคนที่เห็นต่าง แต่ไปเชื่อข้อมูลอีกด้านมากกว่า อย่างกรณีที่มีการสั่งย้ายปลัดอำเภอคลองท่อม รักษาการนายอำเภอคลองท่อม จ.กระบี่ กรณีของหนังสือสั่งการที่ปลัดอำเภอเซ็นแจ้งให้มีการนำคนมาสนับสนุนหมู่บ้านละ 20 คน นั้น ชัดเจนแล้วว่า มีความไม่ชอบมาพากลในขบวนการการทำประชามติสำรวจความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ทำให้ข้อมูลออกมากลายเป็นประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่สนับสนุนให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 

ดังนั้น ทางประชาชนที่ไม่ต้องการถ่านหิน ไม่ยอมรับมติดังกล่าว และจะต่อสู้ตามแนวทางสันติต่อไป ซึ่งการดำเนินการขั้นแรกมีการระดมประชาชนที่มีแนวคิดเดียวกันให้มาร่วมชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลให้มากที่สุด เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีประชาชนจำนวนมากไม่ต้องการถ่านหิน และจะไม่เลิกราจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

กลุ่มต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินชี้รบ.ตัดสินใจพลาด

บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน จาก จ.สงขลาและกระบี่ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ล่าสุด นายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสารงานเครือข่าย ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 3/2560 ว่า การที่รัฐบาลยืนยันที่จะเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าจากถ่านหิน แม้ว่าทางเครือข่ายได้เคลื่อนไหวคัดค้านตลอด 2 ปีที่ผ่าน เป็นเพราะรัฐบาลเห็นแก่ประโยชน์ของนายทุนมากกว่าเสียงของประชาชน ซึ่งเชื่อว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ที่จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนใน จ.กระบี่ และพื้นที่ทะเลอันดามัน รวมถึงประชาชนทั่วประเทศจะต้องแบกรับภาระค่าก่อสร้าง จำนวน 2 แสนล้านบาท ด้วยการจ่ายค่าไฟฟ้า และการขึ้นภาษีต่าง ๆ ดังนั้น ทางเครือข่ายฯ จะปักหลักคัดค้านหน้าทำเนียบรัฐบาลจนกว่าจะมีการยุติการก่อสร้าง รวมถึงจะมีประชาชนในพื้นที่ จ.กระบี่ เดินทางมารวมชุมนุมเพิ่มขึ้น ซึ่งหากรัฐบาลจะใช้กำลังเข้าจับกุมก็ยินดี ยืนยันว่าจะไม่หนีไปไหน