สุวิทย์ทาบศุภชัย-เอกชัยนั่งผู้ทรงคุณวุฒิป.ย.ป.

สุวิทย์ทาบศุภชัย-เอกชัยนั่งผู้ทรงคุณวุฒิป.ย.ป.

สุวิทย์ทาบศุภชัย-เอกชัยนั่งผู้ทรงคุณวุฒิป.ย.ป.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'สุวิทย์' ทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วม ป.ย.ป. ตอบรับแล้ว 80% มี 'ศุภชัย พานิชภักดิ์ - พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ' ร่วมด้วย

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) กล่าวถึงกรณีการตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ป.ย.ป. ว่า ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ 30 - 40 คน โดยจะมาจากทุกภาคส่วน ตามที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ ป.ย.ป. ตั้งไว้ และไม่ใช่เพียงมาให้คำปรึกษา แต่ต้องมาขับเคลื่อนได้ด้วย ทั้งนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิ จะไปอยู่ในส่วนของคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด เน้นไปอยู่ที่คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ เพราะมีการทำงานในหลายมิติ ทั้งพลังงาน การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ทั้งนี้ นายสุวิทย์ กล่าวว่า บุคคลที่จะเชิญมาเป็นผู้ทรงคุณวุฒินั้น ขณะนี้ตอบรับแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ อยู่ระหว่างการทาบทาม และรายชื่อดังกล่าวต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 8 ก.พ. นี้ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อออกเป็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรีต่อไป สำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างการทาบทามและรอการตอบรับ อาทิ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (ยูเอ็นซีทีเอดี) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่ องค์การการค้าโลก (ดับเบิลทีโอ) พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการและบุคลากรของสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เป็นต้น

นายสุวิทย์ ยังกล่าวว่า ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ จะมีประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องเรื่องของยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของยุทธศาสตร์กระทรวง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้โจทย์การทำยุทธศาสตร์ภาค ประกอบด้วยยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์กระทรวง และยุทธศาสตร์ภาคด้วย โดยเริ่มด้วยให้งบประมาณแสนล้านบาท ใน 18 กลุ่มจังหวัดเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นรูปธรรมและมีผู้รับผิดชอบโดยตรง ตลอดจนแบ่งยุทธศาสตร์ภาคเป็น 6 ภาค ที่มีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย 6 คน รับผิดชอบ 

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้แนะนำว่าทุกอย่างไม่จำเป็นต้องผ่านนายกรัฐมนตรีแล้ว สามารถดำเนินการผ่านรองนายกรัฐมนตรีได้ทันที และมีการประชุม ป.ย.ป. เพียงเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนเรื่องของการปฏิรูป 27 วาระปฏิรูปเร่งด่วนของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. จะมีการขยับวาระการปฏิรูปเล็กน้อยเพื่อเชื่อมต่อการปฏิรูปของรองนายกรัฐมนตรี โดยสปท. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. จะพูดคุยวงเล็กแบ่งเป็น 6 ด้าน และสรุปให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันและไม่เกิดการทับซ้อน จากนั้นจะมีการประชุมของคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศต่อไป


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล