'จาตุรนต์ 'FB แนะ รบ.อยากปฏิรูป - ยุทธศาสตร์ชาติ - ปรองดอง สำเร็จ ต้องรับฟังความเห็นฝ่ายต่าง ๆ ให้มากขึ้น
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Chaturon Chaisang" ว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในช่วง 1 - 2 สัปดาห์มานี้ แสดงให้เห็นว่าทั้งการปฏิรูป การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและการปรองดอง ในช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ไปไม่ถึงไหนเลย และยังส่อเค้าว่าจะล้มเหลวอีกด้วย และการการที่องค์การเพื่อความโปร่งใส จัดอันดับประเทศไทยมาอยู่ในอันดับที่ 101 ในปี 2559 ลดลงจากอันดับที่ 76 ในปี 2558 แสดงให้เห็นว่าที่ คสช. อวดอ้างว่าจะเข้ามาปราบการคอร์รัปชั่นนั้น แต่ไม่ได้สร้างระบบการต่อต้านการคอร์รัปชั่นที่มีประสิทธิภาพขึ้นได้เลย เป็นความล้มเหลวในการปฏิรูปแบบหนึ่ง
นายจาตุรนต์ ระบุว่า การปรองดองที่ดูเหมือนจะมาแรงแบบไม่ทราบสาเหตุ เพราะแม่น้ำหลายสายประสานเสียงกัน แต่ความจริงอาจเป็นเพียงว่าตัว ป. ปรองดอง นี้ เป็นส่วนหนึ่งของชื่อคณะกรรมการ ป.ย.ป. ที่จะต้องตั้งขึ้นตามโรดแมปและรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการและอนุกรรมการต่าง ๆ เกี่ยวกับการปรองดองก็เลยต้องเกิดขึ้นแต่กระบวนการปรองดองยังไปถึงไหน กระบวนการปรองดองที่กำลังจะทำกันนี้ จุดอ่อนสำคัญอยู่ที่ผู้มีอำนาจจริง ๆ ไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจความหมายของคำว่า "ปรองดอง" ไม่มีคนกลาง ๆ และผู้รู้เข้าร่วมอย่างเพียงพอ หรือเกือบไม่มีเลย และไม่มีการพูดจาหารืออย่างเท่าเทียมกันของทุกฝ่าย
ทิ้งท้ายว่า การปฏิรูปต่าง ๆ การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ควรมีผลทำให้ประเทศไทยอยู่ได้โดยสงบ แต่ผู้มีอำนาจ กลับพูดแบบมีเงื่อนไขอยู่ตลอดว่า ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ก็อาจจำเป็นต้องทำรัฐประหารอีก การพูดแบบนี้นอกจากแสดงว่า การปฏิรูปต่าง ๆ ล้มเหลวแล้ว ยังแสดงว่า ป. ตัวหลังหรือการปรองดองก็ไม่ได้เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย แม้ในอนาคตจะมีการเลือกตั้งขึ้น แต่มีเลือกตั้งแล้วก็อาจเกิดการรัฐประหารอีกกลายเป็นความเสี่ยงสูงกว่าในประเทศอื่น ๆ ย่อมส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล
ที่ลำดับความมาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ไม่ยากกว่า ทั้ง ป. ปฏิรูป ย. ยุทธศาสตร์ชาติ และ ป. ปรองดอง ไม่มีวี่แววว่า จะเกิดผลอะไรเลย ถ้าอยากให้เกิดผล มีทางเดียว คือ ผู้มีอำนาจต้องรับฟังความเห็นฝ่ายต่าง ๆ ให้มากขึ้น