น้ำท่วมนครฯกระบี่สุราษฎร์ยังน่าห่วง-ตายรวม21หาย1

ปภ. ติดตามเฝ้าระวังช่วยเหลือประชาชนภาคใต้น้ำท่วมต่อเนื่องอย่างเต็มที่ ลุ่มน้ำปากพนัง ระดับน้ำท่วมสูง 1 ม. ขณะ เรือผลักดันน้ำ ทร. 20ลำ ถึงสงขลา มุ่งอ.ปากพนัง เสียชีวิตรวม 21 ราย สูญหาย 1

นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดทางภาคใต้ ว่า ปภ. ได้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง รวมถึง สุราษฎร์ธานี เนื่องจากยังมีฝนตกอยู่ จึงทำให้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ส่วนในจังหวัดอื่นๆ เริ่มคลี่คลายไปบ้างแล้ว

ทั้งนี้ นายกอบชัย กล่าวว่า ปภ. ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทางด้านการดำรงชีพ และการสัญจร ซึ่งมีการนำเรือหรือรถสูงเข้าไปช่วยอพยพประชาชนจากจุดเสียงภัยไปยังจุดปลอดภัย รวมถึงขนส่งอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดูแลในพื้นที่ที่มีฝนตกต่อเนื่องอย่างเข้มงวด เพื่อรอการระบายน้ำออกสู่ทะเล

ลุ่มน้ำปากพนังเมืองคอนยังอ่วมน้ำท่วมสูง1ม.

นายชัยธวัช ศิวบวรหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ที่จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันยังคงมีหลายพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะบริเวณลุ่มน้ำปากพนัง ประกอบด้วย 6 อำเภอ อ.ชะอวด หัวไทร เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง และ อ.เมือง วัดระดับน้ำสูงสุดประมาณ 1 ม. ทั้งนี้หากปล่อยให้น้ำระบายลงสู่ทะเลตามธรรมชาติจะต้องใช้เวลาอีกกว่าครึ่งเดือนสถานการณ์จึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เบื้องต้นทางจังหวัดได้รับการสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำและอุปกรณ์เร่งระบายน้ำต่างๆ ซึ่งถือว่าช่วยได้เป็นอย่างมาก คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ ปริมาณน้ำน่าจะลดลง สำหรับอุปสรรคของการให้ความช่วยเหลือนั้นพบว่ามีปัญหาด้านการให้ความช่วยเหลือที่ไม่ทั่วถึงเพราะมีบริเวณที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ล่าสุดหลายหน่วยงานได้พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเข้าไปหาชาวบ้านที่เดือดร้อนตามจุดต่างๆ ส่วนอาหารปรุงสุกก็ยอมรับว่ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ อย่างไรก็ตามหากเป็นไปได้ อยากขอรับการสนับสนุนข้าวสาร อาหารแห้ง หากเป็นอาหารปรุงสุกสำเร็จแล้วก็จะเป็นการดี นอกจากนี้ สุขาชั่วคราว และ พาหนะทางน้ำ เช่นเรือขนาดต่างๆ , เจ๊ทสกี ก็ยังเป็นที่ต้องการเช่นกัน เพราะสิ่งของเหล่านี้ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย

เรือผลักดันน้ำทร.20ลำถึงสงขลามุ่งอ.ปากพนังแก้อุทกภัย

เรือหลวงอ่างทอง ซึ่งบรรทุกเรือผลักดันน้ำ ของกองทัพเรือ จำนวน 20 ลำ เดินทางถึงท่าเรือน้ำลึก จ.สงขลาแล้ว โดยมี พล.ร.ต.มนต์ธรรม์  วังแก้ว รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เป็นผู้ควบคุมดูแลและอำนวยความสะดวกก่อนที่จะลำเลียงด้วยรถบรรทุกจำนวน17 คัน นำไปติดตั้งที่บริเวณปากแม่น้ำปากพนัง ซึ่งเชื่อมต่อกับคลองชะอวด จ.นครศรีธรรมราช คาดว่าจะถึงพื้นที่ในช่วงสายของวันนี้ และทางหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ กรมอู่ทหารเรือจะนำเรือลงน้ำและทดลองเดินเครื่อง ประมาณ 20 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำทั้ง 20 ลำ จะอยู่ที่บริเวณสะพานคลองระบายน้ำฉุกเฉิน อ.ปากพนัง จ.หวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลและจะปฏิบัติการในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย สำหรับเรือผลักดันน้ำที่ทางกองทัพเรือส่งมาช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมมี 2 ชุด ชุดแรกจำนวน 30 ลำ ได้ติดตั้งไปแล้วที่สะพานคลองระบายน้ำชะอวด - แพรกเมือง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช  เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา

ใต้ยังอ่วมหนัก 10 จังหวัด เสียชีวิต 21 ราย สูญหาย 1

นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ผ่านรายการเปิดข่าวเด่น เจาะประเด็นดัง ช่วงเช้าที่ผ่านมา ถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย 10 จังหวัด 96 อำเภอ ประกอบด้วย พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี สุราษฎร์ธานี ตรัง ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง โดยเมื่อคืนนี้มีแนวโน้มระดับน้ำมากหน้าโรงพยาบาลบางสะพาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องสูบน้ำระยะไกล กระสอบทรายไปวางไว้เพื่อป้องกันแล้ว ส่วนพื้นที่แนวโน้มน่าเป็นห่วง คือ พัทลุง ปัตตานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี บางส่วน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต 21 ราย และสูญหาย 1 ราย ที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตส่วนใหญ่คือ พลัดตกเรือ/หาปลาพลัดตก และเด็ก ๆ จะเล่นน้ำและถูกน้ำพัดพาไป 

ในส่วนของมาตรการป้องกันนั้น ทาง ปภ. ได้ระดมเครื่องจักรเครื่องกลจากภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งรถสูบน้ำ เรือยนต์ เรือท้องแบน รถผลิตน้ำ รถไฟฟ้าส่องสว่าง กระจายกำลังไปดูแลในพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมยอมรับในการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานต่าง ๆ มีปัญหาในการติดต่อประสานงานอยู่บ้าง จึงได้ตั้งศูนย์บัญชาการไว้ที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดต่อประสานงาน นอกจากนี้ ปัญหาอีกอย่างที่พบคือการนำน้ำดื่มอาหาร เข้าไปให้ประชาชนบางจุดอาจจะเร็วและช้าไปบ้าง จึงได้พยายมกระจายน้ำดื่มและอาหารไปไว้ในหลาย ๆ จุด

อย่างไรก็ตาม รองอธิบดี ปภ. กล่าวว่า ขณะยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าจะคลี่คลายวันใด เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่ามีฝนจำนวนมาก โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดาามัน ดังนั้น หากจุดไหนที่เคยท่วมก็ต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อม โดยขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ส่วนสิ่งที่ยังขาดแคลนและต้องการขอรับบริจาคคือน้ำดื่มแบบขวด เนื่องจากไม่เพียงพอต่อความต้องการ 

กรมชลฯส่งเครื่องระบายน้ำลงใต้627เครื่อง

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคใต้ ล่าสุดบางพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เช่น จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนจังหวัดตรังคาดว่าอีก 7 - 8 วัน จะเข้าสู่ภาวะปกติ 

ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือของกรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องระบายน้ำ 627 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 163 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยทางกระทรวงเกษตรจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

เมืองกระบี่น้ำลดสู่ภาวะปกติชาวบ้านเร่งฟื้นฟูที่อยู่อาศัย

นายสุริยัน ณรงค์กูล นายอำเภอเมืองกระบี่ จ.กระบี่ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ เกิดน้ำท่วมขังอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ระดับน้ำได้ลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย ส่วนประชาชนที่ต้องอพยพออกมาจากบ้านพัก ต่างก็พากันเดินทางกลับเข้าไปทำความสะอาดที่อยู่อาศัย โดยช่วงเช้าทางอำเภอได้แจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มสะอาดให้แก่ผู้ประสบภัยเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งต่อไปจะมีการประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (อุทกภัย) สำหรับนำงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือน รวมถึงสิ่งสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ 

อย่างไรก็ตาม นายสุริยัน ระบุว่า จากนี้ไปหลายหน่วยงานยังคงต้องติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด โดยปัญหาที่เกิดขึ้นวานนี้ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด ประกอบกับเกิดขึ้นเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการด้านการเตรียมความพร้อมรับมือ