เรียกร้องนับคะแนนใหม่ หลังผลล่าสุดพบ "คลินตัน" ชนะป๊อปปูลาร์โหวต 2 ล้านเสียง

หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ใหม่ในหลายรัฐ หลังคะแนนล่าสุดชี้ให้เห็นว่า "ฮิลลารี" มีคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตทิ้งห่าง "ทรัมป์" เกือบ 2 ล้านเสียง

ผ่านมา 2 สัปดาห์หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่การนับคะแนนยังคงไม่เสร็จสิ้น โดยผลการนับคะแนนดิบจากประชาชน หรือ Popular vote ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งล่าสุด ชี้ให้เห็นว่านางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ถึงเกือบ 2 ล้านเสียง แต่หากพิจารณาจากคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral vote ทรัมป์ ยังเป็นฝ่ายที่มีคะแนนนำ ทำให้ผลป๊อปปูลาร์โหวตของคลินตันที่เพิ่มขึ้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้

อย่างไรก็ตาม ผลคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตที่ทิ้งห่างกันถึงเกือบ 2 ล้านเสียง ก็ยังเป็นชนวนเหตุให้ผู้สนับสนุนคลินตัน รวมถึงบรรดานักวิชาการ ทนายความ และผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล ตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของทรัมป์ ขณะที่คะแนนของทรัมป์ในหลายรัฐก็สูสีกับคลินตันมาก จนมีเสียงเรียกร้องจากให้มีการนับผลการลงคะแนนใหม่ในหลายรัฐ ซึ่งกรณีเช่นนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ในการเลือกตั้งประธานาธิบสหรัฐ ที่ผู้ชนะป๊อปปูลาร์โหวตแพ้การเลือกตั้ง

ส่วนความคืบหน้าของคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์ ล่าสุด ทรัมป์ ได้เลือกผู้หญิง 2 คนแรกเข้าร่วมทีมบริหาร โดยนางนิคกี ฮาเลย์ ผู้ว่าการรัฐเซาธ์แคโรไลนา ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย ได้รับเลือกเป็นทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ส่วนนางเบตซี เดอวอส เศรษฐีนีผู้บริจาคเงินเข้าพรรครีพับลิกัน และมีสามีเป็นทายาท บริษัท แอมเวย์ ได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ นับเป็นผู้หญิง 2 คนแรกที่ทรัมป์เลือกมาร่วมงาน หลังก่อนหน้านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่าไม่ให้เกียรติผู้หญิง