กอร.รส.ร่วมจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดี

กอร.รส. ร่วมจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดี 22 พ.ย. นี้ ขอให้ประชาชนที่เข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ ได้ร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง เตรียมทดลองแผนป้องกันการแซงคิว
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง หรือ กอร.รส. กล่าวถึงการจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดี เพื่อร่วมกันน้อมรำลึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 22 พ.ย. นี้ กอร.รส. จะร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าวด้วย โดยในช่วงเวลาก่อน 08.00 น. ที่จะเริ่มกิจกรรม จะหยุดการคัดกรอง หยุดการเดินคิวเข้าถวายบังคับ พระบรมศพ ซึ่งทาง กอร.รส. ไม่ได้กำหนดจุดที่จะทำกิจกรรมจุดใดเป็นจุดหลัก แต่จะให้ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะอยู่จุดไหนในพื้นที่โดยรอบท้องสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง สามารถแสดงความจงรักภักดี พร้อมกับประชาชนทั้งประเทศได้ในโอกาสเดียวกัน โดยทาง กอร.รส. จะเป็นศูนย์กลางกระจายเสียงและการรับสัญญาณจากทำเนียบรัฐบาลเพื่อที่จะให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง
รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงกลาโหม จะร่วมทำกิจกรรมดังกล่าวด้วย โดยมีปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน
นอกจากนี้ พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ ยังกล่าวถึงการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในวันเสาร์-อาทิตย์ นี้ ว่า ทาง กอร.รส. จะมีการปรับพื้นที่โดยจะมีการเคลื่อนย้ายจุดบริการทางด้านทิศใต้ มารวมที่ทางทิศเหนือ ซึ่งในคืนนี้ หลังเวลา 21.00 น. ที่จะปิดพื้นที่ก็จะทยอยดำเนินการย้าย ส่วนเส้นทางในการต่อคิวเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. จะเปิดให้ประชาชนเข้าเพียง 4 ประตู คือ ทางเข้าหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ วงเวียน รด. สะพานช้างโรงสีข้างกระทรวงกลาโหม และจุดสุดท้ายบริเวณาสะพานกัลยา
ทั้งนี้ กอร.รส. ได้เตรียมอาหารและน้ำ รองรับประชาชนที่เดินทางมาในช่วงเช้าก่อน จำนวน 5,000 ชุด ส่วนด้านในเต็นท์พักรอจะมีการติดตั้งคิวไลน์เพื่อป้องกันคนที่จะเข้ามาแทรกแถว และในเวลา 09.00 น. จะเปิดทุกประตูตามปกติรองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ จะมีการทดลองแจกใบลาให้กับประชาชนที่รอคิวภายในเต็นท์พักคอย กรณีมีความจำเป็นต้องลุกออกจากแถวไปเข้าห้องน้ำหรือทำธุระ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแซงคิว หรือ สวมคิว และจะนำมาประเมินว่าการแก้ไขปัญหาในลักษณะนี้ต้องแก้ไขจุดใดเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะเดียวกัน ขอให้ประชาชนที่นั่งใกล้กันทำความรู้จักกันไว้ เนื่องจากกรณีเจ็บป่วยหรือเป็นลมระหว่างเข้าแถวจะได้ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ได้ และยังเป็นการสร้างมิตรไมตรีที่ดีต่อกันไว้ด้วย ส่วนกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนเรื่องการแซงคิวของบุคคลวีไอพีที่อาศัยความรู้จักกับเจ้าหน้าที่นั้น ต้องดูในเรื่องเจตนาว่าจงใจหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นใคร แม้กระทั่งตน จะไม่สามารถกระทำเช่นนั้นได้ ต้องทำตามระเบียบ