กระแส อนาคต และการต่อรองอำนาจ

ไม่รู้ว่า อนาคตอันใกล้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตัดสินใจอย่างไร..กับข้อเสนอของ บรรดา กองเชียร์ เกี่ยวกับบทบาททางการเมือง ในขณะนี้ ต้องยอมรับว่ากระแสความนิยมของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ไม่ว่าจากการสำรวจของสำนักไหนก็ตาม จนเป็นเหตุให้บรรดา กองเชียร์ต่างเสนอแนวทางในอนาคตให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ กันยกใหญ่

กระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้บรรดานักการเมืองหน้าเดิม มีความหวั่นไหว และพยายามเช็คกระแส ดูแนวทางความเป็นไปได้ว่า จะออกมาในรูปแบบใด เพื่อจะได้วางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีของกลุ่มตัวเองได้ถูกต้อง

ดังนั้น ข้อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อเป็นแนวทางในการเข้าสู่การเมือง หรือ การจะก้าวมาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามแรงเชียร์ โดยอ้างว่า การตั้งพรรคการเมืองจะได้ถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตย มึวามสง่างามสมกับที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไปก่อนหน้านั้น

ในขณะอีกซีกหนึ่ง กลับมีข้อเสนอว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งพรรคการเมืองอย่างเป็นรูปธรรม รอเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผ่านประชามติมาแล้ว เปิดช่องไว้เช่นกัน โดยแนวทางนี้น่าจะดีกว่า และสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามานั่งเป็นนายกยาวนานเหมือน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อในอดีต โดยเรียกแนวทางนี้ว่า เปรมโมเดล..

ทั้งนี้ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจเลือกทางไหนก็ตาม หากบรรยากาศเดินไปตามครรลองตามกรอบระยะเวลา ที่กำหนดไว้ หมายถึง ทุกคนลงมาอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน ใต้กรอบ รัฐธรรมนูญใหม่ ที่เดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ไม่ได้อยู่ภายใต้การใช้อำนาจพิเศษ เชื่อได้ว่า เส้นทางเดินไม่ง่ายเหมือนที่คิดกันอย่างแน่นอน

ภายใต้โครงสร้างทางอำนาจ ที่เปลี่ยนแปลง โครงสร้างทางสังคมที่เปลี่ยนแปลง ความซับซ้อนของประเด็นปัญหา การต่อรองอำนาจ จะผิดไปจากเดิมอย่างแน่นอน

บรรดานักการเมือง พร้อมที่จะต่อรองเพื่อเป็นฐานอำนาจ สนับสนุน หรือพร้อมจะแปรผันแปรเปลี่ยนหันไปสนับสนุนอีกฝ่ายได้ตลอดเวลา ซึ่งนี้คือ ธรรมชาติของการเมือง ธรรมชาติของนักการเมือง แต่ หากพล.อ.ประยุทธ์ยังสามารถประสานประโยชน์ ได้อย่างทั่วถึง และ ยึดเป้าหมายใหญ่อยู่ที่ คนส่วนใหญ่ แน่นอนว่าการสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่ก็พร้อมจะเป็นฐานที่สำคัญ ต่อไป..

สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ยากที่จะเดาได้ในวันนี้ แต่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้น คือ การต่อรองเพื่อขอมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจ เกิดขึ้นแน่นอน...ถึงเวลานั้น จะได้เห็นว่า การบริหารอำนาจของผู้นำ จะเป็นอย่างไร..และนั้นหมายถึง ภาพที่จะมองไปยังอนาคตว่า จะเกิดอะไรขึ้น.. รับรองได้ว่า ไม่ง่าย

ดังนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการเข้ามาบริหารประเทศเข้ามารับภาระ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ตามที่ส่งสัญญาณออกมาก่อนหน้านี้ ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือและเรียนรู้ การต่อรองอำนาจเอาไว้แต่เนิ่นๆ ..น่าสนใจน่าติดตามยิ่งครับ..

โดย เปลวไฟน้อย