หนุ่มหื่นปล้ำยายใต้ทางด่วน สารภาพมีอะไรกัน แต่ไม่ได้ข่มขืน

หนุ่มหื่นปล้ำยายใต้ทางด่วน สารภาพมีอะไรกัน แต่ไม่ได้ข่มขืน

หนุ่มหื่นปล้ำยายใต้ทางด่วน สารภาพมีอะไรกัน แต่ไม่ได้ข่มขืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจรวบตัวหนุ่มขี้เมา ผู้ต้องหาขืนใจยายใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน สารภาพมีเพศสัมพันธ์กัน แต่เพราะยินยอม ไม่ใช่ทำร้ายร่างกาย-กระชำเรา

(12 ก.ค.) พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.เมษนนท์ นาขวัญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส.สอบปากคำ และตรวจหาดีเอ็นเอ นายอรรถพล หรือ พล อายุ 37 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัว ตามหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 328/2559 ลงวันที่ 12 ก.ค.59 เข้า หลังจับกุมได้ที่ริมทางสาธารณะ ถนนชัยพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะกำลังนั่งดื่มสุรากับเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ยายวัย 61 โร่แจ้งความ หนุ่มรุ่นลูกชกท้องข่มขืนใต้ทางด่วน

นายอรรถพล เป็นผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายร่างกาย นางจันทรา อายุ 61 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่เพิงพักใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน แล้วหลบหนีไป ส่วนผู้เสียหาย คุณยายจันทร์ต้องนอนพักรักษาตัวที่ ร.พ.ชลประทาน แพทย์ตรวจเช็คร่างกายให้รอดูอาการในช่องท้องที่โรงพยาบาลต่ออีก 2-3 วัน

จากการสอบสวน นายอรรถพล ให้การปฏิเสธระบุว่างไม่ได้ข่มขืนและทำร่างร่างกาย ยายจันทร์ ตามที่กล่าวหา หากแต่นั่งดื่มเหล้าด้วยกัน แล้วเกิดมีอารมณ์ทางเพศ ผู้เสียหายได้สมยอมเอง ส่วนบาดแผลที่หน้าท้องของยายจันทร์ ตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่ตนเองไม่ได้ทำร้าย

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอที่กระพุ้งแก้มและตามร่างกายผู้ต้องหารายนี้อย่างละเอียด เพื่อเป็นหลักฐานและควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีแม้จะปฎิเสธก็ตามแต่หลักฐานแน่นหนา

พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่าจากการสอบสวนและตรวจเลือดนายอรรถพล ผลเลือดออกมาไม่ชิดกับตัวอย่างคนร้ายที่ก่อเหตุที่ภาค 7 แต่อย่างไรก็ตามได้มีการประสานไปทางภาค 7 แล้ว ขณะนี้กำลังเดินทางมาเพื่อทำการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้เพิ่มเติม เนื่องจากคดีที่เกิดทางภาค 7 อาจมีผู้ก่อเหตุหลายราย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีการร่วมรักกันจริงโดยสมยอมทั้งคู่ แต่ปฎิเสธเรื่องทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ซึ่งหลังจากนี้จะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook