ทนายเข้าพบ "วัฒนา" หลังถูกแจ้งข้อหา "กิตติรัตน์" ชี้ คสช.คิดมาก มีไอ้โม่งเบื้องหลัง
ทนายเข้าพบ "วัฒนา" ที่มทบ.11 หลัง คสช.แจ้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศคสช.เพิ่ม ด้าน "กิตติรัตน์" ระบุ คสช.คิดมากว่ามีไอ้โม่งช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง
เมื่อเวลา 09.00 น.ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายังมณฑลทหารบกที่ 11 หลักจากได้รับการประสานจากนายทหารพระธรรมนูญ ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน กองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายวัฒนา เมื่อวานนี้ (20 เม.ย.)
โดยเช้าวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.) ที่ได้ควบคุมตัวนายวัฒนา ที่ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้พาตัวนายวัฒนามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหาที่ว่านายวัฒนาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 39/2557 ที่มทบ.11
นายนรินทร์พงศ์กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายวัฒนา แต่วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องการแจ้งข้อกล่าวหาที่นายวัฒนาที่ฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ที่ 39/2557 ที่กำหนดเงื่อนไขไว้ว่าจะไม่เคลื่อนไหวและประชุมทางการเมืองใดๆ หากฝ่าฝืนเงื่อนไขจะยินยอมถูกดำเนินคดีและยินยอมถูกระงับทุรกรรมทางการเงินนั้น ซึ่งตนจะเข้าร่วมเข้ารับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ด้วย เพื่อจะได้รู้รายละเอียดของการแจ้งข้อกล่าวหาและเตรียมช่องทางการต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป เพราะเป็นสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายอาญา
และตนคิดภายหลังการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จแล้วเสร็จจะมีการส่งตัวไปยังศาลทหารเพื่อขออนุญาตฝากขังผลัดแรก ซึ่งตนจะทำเรื่องยื่นขอประกันตัวนายวัฒนาชั่วคราวในวงเงินไม่น่าเกิน 50,000 บาท และหวังว่าจะได้รับการปล่อยตัวเพราะการกระทำของนายวัฒนาไม่ใช่ความผิดร้ายแรง
"ที่มีข่าวออกมาว่านายวัฒนาไม่รับประทานอาหารขณะที่ถูกควบคุมตัวอยู่นั้น ผมรู้สึกแปลกใจที่คสช.จะเตรียมแจ้งข้อกล่าวเพิ่มเติมเพราะคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการประท้วงหรือไม่" นายนรินทร์ กล่าว
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯกล่าวว่า หลังมีการรัฐประหารนักการเมืองหลายคนได้ลงนามบันทึกข้อตกลง ตามคำสั่งคสช.ที่ 39/57 ก่อนได้รับการปล่อยตัว ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีการใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี 2557 และการแสดงความเห็นของนายวัฒนาในครั้วเป็นไปตามสิทธิของประชาชนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 57 ดังนั้นคำสั่ง คสช.ดังกล่าวจะใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญได้อย่างไร
และในส่วนข้อสงสัยของคสช.ที่เชื่อว่าการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่จะช่วยเหลือนายวัฒนานั้น มีผู้ที่อยู่เบื้องหลังตนเชื่อว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง เพราะถ้ามีผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะไม่มีพฤติกรรมเปิดเผยอย่างตน เพราะสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่นั้นตนทำด้วยความผูกพันธ์เพราะตนกับนายวัฒนารู้จักกันมานาน ส่วนที่นางสาววีรดาได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ให้นายวัฒนาตามที่ต่างๆ ตนมองว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวที่พ่อลูกจะตกลงกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 09.30 น. ทาง พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ฝ่ายกฎหมาย คสช. ได้ออกมารับ นายนรินทร์พงศ์ และทีมทนายความ เดินทางเข้าไปพบนายวัฒนา และพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ภายใน มทบ.11