คพ.เผยค่าฝุ่นละอองภาคใต้เริ่มดีขึ้น

กรมควบคุมมลพิษ เผย ปริมาณฝุ่นละอองจากหมอกควันข้ามแดนจากอินโดนีเซีย ในพื้นที่ภาคใต้ลดลง

นายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันข้ามแดนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ที่ได้รับผลกระทบจากการเผาพื้นที่พรุในเกาะสุมาตรา และบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงหน้าแล้งของอนุภูมิภาคอาเซียนตอนล่าง ว่า สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในภาคใต้ของกรมควบคุมมลพิษ ได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศวันนี้ พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองข้ามแดนในทุกจังหวัด มีแนวโน้มลดลง คือ ยะลา 128 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สตูล 128 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นราธิวาส 132 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ปัตตานี 139 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยยกเว้นในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีแนวโน้มสูงขึ้น คือ ภูเก็ต 74 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ พังงา 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้คุณภาพอากาศส่วนใหญ่ อยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้ ค่าฝุ่นละอองเฉลี่ยในสภาวะปกติของภาคใต้ จะมีค่าไม่เกิน 40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณฝุ่นละออง และเกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ ทำให้กรมควบคุมมลพิษ ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง


สำหรับจำนวนจุดความร้อน หรือ hotspot บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย มี 65 จุด ซึ่งบางส่วนของ hotspot ตรวจวัดไม่ได้เนื่องจากอยู่ใต้พื้นดิน โดยทั้งหมดเกิดทางตอนกลาง และตอนใต้ของเกาะ รวมทั้งในพื้นที่เกาะบอร์เนียวด้วย ทั้งนี้ จากภาพถ่ายดาวเทียมพบหมอกควันหนาแน่นปกคลุมบริเวณพื้นที่ที่เกิด hotspot ดังกล่าว