เตือนเกษตรกรกาฬสินธุ์รับมือภัยแล้ง
ผอ.โครงการบำรุงและรักษาเขื่อนลำปาว เตือนเกษตรกร รับมือภัยแล้ง อย่างน้อย 6 เดือน หลังปริมาณน้ำมีน้อย
นายปิยปัญญา ภู่ขวัญเมือง ผู้อำนวยการโครงการบำรุงและรักษาเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุว่า จากภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้ปริมาณน้ำต้นทุนที่อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดน้อยลง ส่งผลระยะยาวสำหรับการปล่อยน้ำในฤดูแล้งที่จะถึงในอีก 1 เดือนข้างหน้า ทำให้สถานการณ์การใช้น้ำในฤดูแล้งที่จะถึงนี้น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ท้ายเขื่อนลำปาว ที่เคยปลูกข้าวนาปรัง เลี้ยงปลา และกุ้งก้ามกราม นายปิยปัญญา กล่าวอีกว่า เขื่อนลำปาวมีพื้นที่ให้บริการน้ำสำหรับทำการเกษตรในฤดูแล้ง 114,000 ไร่ แยกเป็นปลูกข้าวนาปรัง 109,300 ไร่ บ่อปลา 1,431 ไร่ บ่อกุ้งก้ามกราม 2,931 ไร่ พืชไร่พืชสวน 356 ไร่ ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 2,134,000,000 บาท แต่เนื่องจากปีนี้ประสบภาวะฝนทิ้งช่วง เขื่อนอุบลรัตน์ ที่ จ.ขอนแก่น และเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ มีปริมาณน้ำเหลืออยู่น้อย ไม่พอหล่อเลี้ยงแม่น้ำชีและพื้นที่ที่แม่น้ำปาวไหลไปบรรจบพื้นที่ด้านล่างในเขต จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และสิ้นสุดที่ จ.อุบลราชธานี จึงเป็นกรณีฉุกเฉินจำเป็นที่เขื่อนลำปาวจะต้องกันน้ำจากการเกษตร เพื่อเลี้ยงคลองรักษาระบบนิเวศและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน 3 จังหวัด ที่แม่น้ำชีไหลผ่านดังกล่าว เพื่อเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ หากปริมาณน้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนจุฬาภรณ์ในปลายเดือนตุลาคมนี้ไม่สูงขึ้น จึงเป็นความจำเป็นที่เกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ ที่เคยทำนาปรัง เลี้ยงปลา และกุ้งก้ามกราม ต้องลดพื้นที่และเตรียมรับมือภาวะขาดแคลนน้ำ เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดภาวะภัยแล้งต่อเนื่องยาวนานถึง 6 เดือน หรือถึงเดือนพฤษภาคม 2559