เพื่อไทยโจมตีงบฯบัวแก้วอัดไม่ควรให้โบนัสผู้ก่อการร้าย

เพื่อไทยโจมตีงบฯบัวแก้วอัดไม่ควรให้โบนัสผู้ก่อการร้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(31ม.ค.) เวลา 13.00 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 ซึ่งมีการพิจารณางบประมาณในการโครงการฟื้นฟูความเชื่อมั่น และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศในงบของกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีงบประมาณ 325 ล้านบาท

โดยนายวีรศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงต่างประเทศ ชี้แจงว่า งบประมาณก้อนนี้มีความจำเป็นที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศได้นำงบประมาณก้อนนี้ไปจัดประชาสัมพันธ์หรือโรดโชว์จำนวน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศญี่ปุ่น จีน อังกฤษ รัสเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรต เนื่องจากประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่มาเที่ยวและมาลงทุนกับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรรมาธิการในส่วนของพรรคเพื่อไทยต่างอภิปรายโจมตีการนำงบประมาณพร้อมทั้งได้สงวนคำแปรญัตติไว้อภิปรายในประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 ต่อไป โดยนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนไม่ต้องการให้นำเงิน 325 ล้านไปประชาสัมพันธ์ให้กับคนทั่วโลก เพราะเรารู้กันดีว่านายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศทำอะไรไว้ เผาบ้านเผาเมือง ชาวโลกเขารู้ดี แต่นี่กับจะเอางบประมาณไปแก้ตัว ถ้าตนเป็นคนคนนี้ตนไม่กล้ามาเป็นรัฐมนตรี ไม่อยากเชื่อว่าคนที่ทำประเทศเสียหายจะได้รับโบนัสชิ้นใหญ่ เงินตรงนี้เก็บไว้เถอะ ไปทำอย่างไรที่จะเกิดผลประโยชน์กับประเทศ ไม่ใช่ให้งบประมาณเพื่อให้รมว.ต่างประเทศไปแก้ตัวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศอย่างซีเอ็นเอ็น ดังนั้น รมว.ต่างประเทศควรมีสปิริตต่อประเทศชาติ เพราะหากเราไม่กำจัดคนที่ทำความเสียหายต่อบ้านเมือง เราก็ไม่สามารถมีรัฐบาลที่มีหลักนิติธรรมและนิติรัฐได้ เงิน 325 ล้านสามารถเอาไปซื้อไข่ แจกประชาชนได้ทั่วประเทศ ไม่ต้องเอาเงินไปให้หนังสือพิมพ์ต่างประเทศถึง 90 ล้าน ดังนั้นไม่ควรให้โบนัสกับผู้ก่อการร้าย เงินตรงนี้เป็นเงินกู้ที่มาจากประชาชน ตนจึงขอตัดทั้งหมดและขอสงวนไปพูดในการประชุมสภาฯ ยืนยันว่าตนไม่ต้องการทำร้ายกระทรวงต่างประเทศแต่ไม่ต้องการให้เป็นแบบอย่างเพราะจะทำให้คนอื่นกระทำตาม และรัฐบาลนี้ก็ยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารบ้านเมือง

ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ต่อไปไม่ทราบว่าเราต้องออกกฎหมายป้องกันการยึดทำเนียบหรือสภาฯหรือไม่ ซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาลคือ ต้องทำให้ชาวโลกเห็นว่าเราเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ รัฐบาลมาด้วยความชอบธรรมหรือไม่ เพราะชาวโลกมองว่าการยึดสนามบินและการทำกับข้าวของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ใช้กฎหมายและให้ชอบธรรมต่างกัน รวมถึงการชี้แจงเรื่องโรฮิงญาด้วย ซึ่งหากกู้ภาพลักษณ์เหล่านี้ไม่ได้ ก็ไม่สามารถฟื้นความเชื่อมันจากต่างประเทศได้ ตนจึงขอสงวนคำแปรญัตติงบประมาณในส่วนตรงนี้ไว้

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การนำเงินก้อนนี้ไปเพื่อสร้างภาพลักษณ์ โดยเฉพาะกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเพียงการกล่าวอ้าง จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือการสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวบุคคล โดยเฉพาะรมว.ต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องตลก และหากทางรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงควรนำเงินก้อนนี้ไปให้กระทรวงพาณิชย์หรือกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาไปดำเนินการเนินการดีกว่า เพราะถือว่าเป็นงบประมาณที่ซ้ำซ้อนกันและ 2 กระทรวงดังกล่าวก็ได้งบประมาณน้อยเกินไป

ขณะที่จุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยอมรับว่าวันนี้ประเทศไทยมีปัญหา แต่อย่ามองว่าใครสร้างปัญหาหรือทำให้ปัญหาเกิด เพราะหากเราไม่ทำอะไรเลยเราจะสูญเสียโอกาสมากกว่านี้ และงบประมาณนี้ถือว่าเป็นงบที่ป้องกันตัวเองตัวเองจากสื่อต่างประเทศ ซึ่งงบประชาสัมพันธ์ที่เอาไปใช้ในซีเอ็นเอ็นที่ตนเห็นก็มีแต่ในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ใช้งบ 190 ล้านในการโฆษณาอิริคการ์ดในซีเอ็นเอ็น

นายวีรศักดิ์ ชี้แจงว่า งบประมาณนี้ไม่ใช่งบของต่างประเทศอย่างที่เข้าใจและไม่ใช่งบประชาสัมพันธ์เพื่อแก้ตัวให้กับรมว.ต่างประเทศ แต่เกิดจาก 3 หน่วยงานทางเศรษฐกิจที่ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และกรมส่งเสริมการส่งออกได้ประชุมร่วมกัน และมีมติร่วมกันว่าต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะวิกฤตศรัทธา เนื่องจากตัวเลขของการท่องเที่ยวการลงทุนและการส่งเสริมตกหมด ซึ่งทีมที่จะไปร่วมปรึกษาพูดคุยก็เป็นทีมนายกฯ และคณะผู้แทนเศรษฐกิจระดับสูง นอกจากนี้ก่อนที่จะไปทำการประชาสัมพันธ์กับ 5 ประเทศจะมีการสำรวจความคิดเห็นก่อน หลังจากนั้นอีก 1 ปีหลังการทำประชาสัมพันธ์ก็จะมีการสำรวจความคิดเห็นอีกครั้ง ดังนั้นเรื่องนี้สามารถวัดได้ว่างบประมาณดังกล่าวมีศักยภาพหรือไม่

รายการคมชัดลึกตอน-แกนโลกเหวี่ยง สัญญาณเตือนธรรมชาติวิบัติ

หลัง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลว่า แกนโลกหมุนเอียงผิดปกติ ทำให้เกิดความวิตกกังวลกันว่าในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยอาจประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น รายการคม ชัด ลึก ประจำวันศุกร์ที่ 30 มกราคม ตอน แกนโลกเหวี่ยง สัญญาณเตือนธรรมชาติ ได้หยิบยกประเด็นร้อนดังกล่าวมาสนทนาในรายการเพื่อหาข้อเท็จจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook