อนุสรณ์ ระบุ ถ้า กรธ. ตั้งโจทย์ผิด จะเกิดผลเสีย

รักษาการรองโฆษกเพื่อไทย ระบุ ถ้า กรธ. ตั้งโจทย์ผิด ไม่สามารถดำเนินนโยบายใด ๆ ได้ จะเกิดผลเสียใหญ่หลวง ชี้ ตปท.กดดันคืนปชต. จะเข้มข้นขึ้น

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นิด้าโพล เปิดเผยผลการสำรวจประชาชนที่ส่วนใหญ่เชื่อมั่นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. สามารถทำรัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน ว่า ในส่วนที่มีความเห็นไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นนั้น ให้เหตุผลว่า กรธ. ชุดนี้มาจากการคัดเลือกของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งไม่มีความเป็นประชาธิปไตย และเชื่อว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญจะเป็นการเขียนขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พรรคพวกตนเอง เป็นสิ่งที่ กรธ. ต้องรับฟังและระมัดระวังเป็นอย่างมาก อาทิ เรื่องการวางกรอบการร่างรัฐธรรมนูญให้มีองค์กรมาควบคุมการจัดทำนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง หาก กรธ. ตั้งโจทย์ผิด แทนที่จะทำให้การลงทุนรัฐประหารไม่เสียของด้วยการสร้างกติกา วางโครงสร้างให้ประเทศเดินหน้าด้วยประชาธิปไตย แต่กลับไปสร้างเงื่อนไขวางกับดักให้รัฐบาลหลังจากนี้ เข้ามาแล้วไม่สามารถดำเนินนโยบายอะไรได้ จะส่งผลให้เกิดผลเสียอย่างใหญ่หลวง

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ รัฐสภายุโรปออกแถลงการณ์ 23 ข้อ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และคืนกระบวนการประชาธิปไตยให้กลับคืนมาโดยเร็ว ว่า เห็นชัดว่าโรดแมปที่ไปชี้แจงต่อนานาชาติในที่ประชุมสหประชาชาติ ไม่ได้ทำให้เกิดความมั่นใจและหลักการที่ให้กระทรวงการต่างประเทศไปชี้แจงทำความเข้าใจทางการทูตนั้นคงยังไม่พอ เพราะสิ่งที่ปฏิบัติจริงนั้นสวนทางกับที่ชี้แจงกับนานาชาติ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงได้รับ ซึ่งข้อเสนอแนะแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากถูกผู้มีอำนาจกดดัน

อย่างไรก็ตาม นานาชาติกำลังจับตามองอย่างเข้าใจและเข้าถึงมากกว่าคนในประเทศบางกลุ่ม และเชื่อในหลักสิทธิเสรีภาพ อำนาจอธิปไตยที่ต้องเป็นของประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นถ้าไม่มีคำตอบที่ชัดเจนหรือแนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในเรื่องนี้ การแถลงหรือท่าทีกดดันจากนานาอารยประเทศจะมีอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ