ทนายควงทูตตุรกีพบอาเดมสารภาพบึ้ม-ผบ.ตร.จ่อแถลง

ทนายความอาเดม เตรียมเข้าเยี่ยมสอบถามข้อมูลปมเหตุรับสารภาพมือบึ้ม เช้าวันนี้ ระบุ ลูกความร้องขอให้ติดต่อสถานทูตประสานญาติที่ประเทศตุรกี ขณะที่ ผบ.ตร.เตรียมแถลงข่าวขบวนการระเบิดราชประสงค์

นายชูชาติ กันภัย ทนายความของ นายอาเดม คาราดัก หรือ นายบิลาล เติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในวันนี้ เวลา 08.30 น. ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ของทางสถานทูตตุรกี ประจำประเทศไทย อีก 1-2 คน จะเดินทางไปเยี่ยม และพูดคุยกับ นายอาเดม ที่เรือนจำชั่วคราว ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 หลังจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลืองตามที่ถูกออกหมายจับในคดีวางระเบิด จนนำไปสู่การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา โดยจะมีการพูดคุยในประเด็นที่มาที่ไปว่าเหตุใดจึงให้การเช่นนั้น เพราะก่อนหน้านี้ เคยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด

ทั้งนี้ เท่าที่เคยพูดคุยกับ นายอาเดม ลูกความ ได้มีการร้องขอให้ประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตตุรกี เพื่อให้ติดต่อญาติของ นายอาเดมที่ประเทศตุรกี ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เมื่อ นายอาเดม มีการกลับคำให้การเป็นยอมรับสารภาพ ก็ต้องไปพูดคุย และลงลายมือชื่อในเอกสารของทางสถานทูต เพื่อจะนำไปประสานญาติที่ประเทศตุรกีต่อไป

ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีระเบิดแยกราชประสงค์ ในวันนี้ เวลา 12.30 น.

 

ทนายอาเดมถึงเรือนจำมทบ.1แล้ว-รปภ.เข้ม

นายชูชาติ กันภัย ทนายความของ นายบิลาล โมฮำเหม็ด หรือ นายอาเดม คาราดัก (ชื่อตามพาสปอร์ต) ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เปิดเผย ก่อนเข้าเยี่ยม นายอาเดม ภายในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรีมณฑลทหารราบที่ 11 ว่า ในการเข้าเยี่ยมวันนี้เพื่อสอบถามมูลเหตุจูงใจในการกลับคำให้การของลูกความ เนื่องจากในการพูดคุยก่อนหน้านี้ นายอาเดม ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ที่เข้ามาในประเทศไทย เพื่อไปทำงานในประเทศที่สามเท่านั้น แต่หลังจากนั้นกลับให้การรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นมือวางระเบิด คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ช.ม. ในการพูดคุยครั้งนี้

ซึ่งหลังจากพูดคุยกับ นายอาเดม แล้วเสร็จจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง เชื่อจะรู้ถึงมูลเหตุจูงใจชัดเจนขึ้น รวมทั้งวันนี้ ทางสถานทูตตุรกี ก็ได้ส่งล่ามภาษามาให้เพื่อใช้ในการสื่อสารพูดคุยด้วย

ด้านบรรยากาศบริเวณหน้ามณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารยังคงวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจสอบรถทุกคันที่ผ่านเข้า-ออก อย่างละเอียด พร้อมบันทึกภาพหมายเลขทะเบียนด้วยกล้องดิจิตอล ส่วนสื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามสถานการณ์นั้น ทหารไม่อนุญาตให้ตั้งกล้องบริเวณด้านหน้า (มทบ.11) โดยให้สังเกตการณ์อยู่ที่ฝั่งตรงข้าม