โฆษกตร.พบอิซานเข้าตุรกี-ไม่ยันเป็นตัวบงการบึ้มใหญ่

โฆษกตร.พบอิซานเข้าตุรกี-ไม่ยันเป็นตัวบงการบึ้มใหญ่

โฆษกตร.พบอิซานเข้าตุรกี-ไม่ยันเป็นตัวบงการบึ้มใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย พบเบาะแส 'อิซาน' หนีเข้าตุรกี ไม่ชัดเป็นคนตัวการใหญ่ ประสานตำรวจสากลติดตาม - ส่งเรื่อง กระทรวงการต่างประเทศ เพิกถอนหนังสือเดินทาง 'วรรณา' แล้ว

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ในการติดตามตัวผู้ต้องหาคดีระเบิด บริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ภายหลังที่มีการประสานตำรวจสากลแล้ว พบความเคลื่อนไหวของ นายอิซาน หรือ อาบูดูซาตาร์ อบูดูเราะห์มาน ว่า ได้หลบหนีเข้าประเทศตุรกี แต่ไม่มีความชัดเจนตำแหน่งที่อยู่ที่แน่ชัด ขณะที่ น.ส.วรรณา สวนสัน และ นายอิมห์ระ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี ผู้เป็นสามี ยังไม่มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ และยังไม่ทราบที่อยู่เช่นเดียวกัน

ส่วน นายซูแบร์ หรือ ชายเสื้อฟ้า ที่ก่อเหตุระเบิดบริเวณท่าเรือสาทร พล.ต.ท.ประวุฒิ ระบุว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ผู้ต้องหายังอยู่ในประเทศไทย หรือหลบหนีออกนอกประเทศ แล้วหรือไม่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนีทั้งหมด ด้าน แนวทางการสืบสวนสอบสวน และจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม จะมีการแถลงรายละเอียด คดีระเบิดแยกราชประสงค์ ในช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2558 พร้อมตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวในทุกประเด็นที่สงสัย

 

ประวุฒิไม่ยันอิซานบงการบึ้มใหญ่ลุยสอบต่อ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตามที่ได้มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของนายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาล โมฮำเหม็ด จำนวน 19 จุด วานนี้นั้น ทาง ตร. และ จนท.ชุดสืบสวน จะไม่หยุดแค่นี้ แต่จะไล่ล่าตัวผู้ร่วมขบวนการที่ถูกออกหมายจับทั้งหมดต่อไป รวมถึง นายอิซาน ที่ข้อมูลล่าสุด ระบุว่า หลบหนีเข้าประเทศตุรกี ส่วนประเด็นที่ว่า นายอิซาน เป็นตัวการใหญ่ในขบวนการนี้หรือไม่ นั้น ยังไม่ชัดเจน อาจจะมีตัวการใหญ่มากกว่านี้ ก็เป็นได้ แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่ข้อมูลดังกล่าว จึงต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อไป

ส่วนเรื่องที่โอนคดีนี้ ไปขึ้นอยู่กับศาลทหาร นั้น ไม่กระทบต่อรูปคดีแต่อย่างใด และจะนับวันฝากขังต่อเนื่องจากศาลปกติ คือ ฝากขังได้จำนวน 7 ผลัด ผลัดละ 12 วัน รวม 84 วัน ก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้องต่อศาลต่อไป ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวแผนผังขบวนการนี้ทั้งหมด ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.00 น.

 

โฆษกตรเผย.เสนอกต.เพิกถอนพาสปอร์ตวรรณาแล้ว

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับ นายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาล โมฮำเหม็ด และ นายเมียไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาในคดีระเบิดราชประสงค์ หลังมีการคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพวานนี้ ว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้งสอง ได้คุมตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 แล้ว ขณะนี้เหลือเพียงรอให้พนักงานสอบสวน ทำสำนวนสรุปคดีนี้ให้แล้วเสร็จ ก็จะสามารถส่งดำเนินคดีในชั้นศาลได้ทันที พร้อมยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีการจับแพะ หรือเร่งปิดสำนวนคดี เพราะมีพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ยืนยันช่วงเวลาตรงกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหาทั้งสองคน รวมถึงจุดที่ผู้ต้องหาวางแผนจะไปวางระเบิดบริเวณที่พักรอของผู้โดยสาร ท่าจอดเรือเจ้าพระยาปริ้นเซส ซอยเจริญนคร 61 ช่วงเย็นของวันที่ 16 สิงหาคม ซึ่งไม่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ในคดีนี้ ยอมรับว่ายังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ว่า ได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศใด แม้จะมีการข่าวรายงานเข้ามาเป็นระยะ แต่ได้มีการประสานส่งภาพหมายจับไปให้ตำรวจสากลช่วยเฝ้าจับตาดูอีกทางหนึ่งแล้ว ซึ่งหากมีความชัดเจนว่าผู้ต้องหาไปกบดานที่ประเทศใด ก็จะประสานข้อมูลพร้อมขอความร่วมมือให้ทางการประเทศนั้นๆ ช่วยดำเนินการตรวจสอบและติดตามจับกุมให้ และได้ส่งเรื่องให้ กระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางของ น.ส.วรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาชาวไทย แล้ว

ส่วนปมเหตุการลงมือวางระเบิด ตำรวจยังคงเชื่อว่ามีมูลเหตุมาจากความแค้นเรื่องนโยบายปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจผิดกฎหมาย แต่จะมีมูลเหตุอื่นอีกหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้

และในวันจันทร์ที่ 28 กันยายน นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินคดีนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ในเวลา 13.00 น.


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook