สมยศเชื่อตร.มีหลักฐานมัดอาเดมเสื้อเหลืองขอรอผลสอบ
'พล.ต.อ.สมยศ' เชื่อ ตำรวจมีหลักฐานมัด อาเดม ชายเสื้อเหลือง ขอรอผลสอบอย่ารีบสรุป ยับยั้งการก่อเหตุระเบิดนับสิบจุดได้แล้ว ขณะ ทนายอาเดม จ่อพบลูกความ 28 ก.ย.
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมีหลักฐานที่พบเพิ่มเติมที่เชื่อมโยงและนำไปยืนยันกับ นายอาเดม คาราดัก อายุ 27 ปี สัญชาติตุรกี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่อพาร์ตเมนต์ พูลอนันต์แมนชั่น ย่านหนองจอก ให้ยอมจำนนต่อหลักฐาน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า หลักฐานใหม่คืออะไร จึงทำให้ขณะนี้ ยังไม่กล้าฟันธงว่า นายอาเดม คือ ชายเสื้อเหลือง ที่นำระเบิดไปวางไว้ที่ศาลพระพรหม พร้อมระบุ นายอาเดม ไม่เคยให้การในลักษณะนี้ จึงเห็นว่าอย่าเพิ่งไปด่วนสรุปคำพูดว่าเป็นความจริง จนกว่าเจ้าหน้าที่จะมีหลักฐานมายืนยันจนทำให้ผู้ต้องหายอมจำนนต่อหลักฐาน
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ในสายตาของตนเองและนายตำรวจที่ทำคดี เมื่อครั้งจับกุมตัว นายอาเดม ได้ในตอนแรกนั้น ทุกคนเห็นเหมือนกันว่า นายอาเดม น่าจะใช่ชายเสื้อเหลือง แต่ไม่มีหลักฐาน อีกทั้งรูปร่าง ลักษณะท่าทาง ไม่ตรงตามภาพสเกตช์ในกล้องวงจรปิด ส่วนกรณีผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดีเอ็นเอ ไม่ตรงกับเศษชิ้นส่วน กระเป๋าเป้ และธนบัตรนั้น เห็นว่าการจะสรุปอะไรจะใช้หลักฐานออย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในการสอบปากคำ พนักงานสอบสวน จะสอบร่วมกับทหาร และจะต้องมีการบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมระบุว่า จากการจับกุมผู้ต้องหาและยึดอุปกรณ์ และสารเคมีประกอบระเบิดได้จำนวนมากนั้น สามารถานำไปก่อเหตุได้นับสิบจุด แต่โชคดีของประเทศไทย ที่สามารถจับกุมได้ก่อน และเชื่อว่าหยุดยั้งขบวนการนี้ได้แล้ว
ทนายอาเดมจ่อพบลูกความชายเสื้อเหลือง28ก.ย.
นายชูชาติ กันภัย ทนายความ นายอาเดม คาราดัก ผู้ต้องหา “ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” เปิดเผยถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวระบุว่า นายอาเดม ยอมรับว่า เป็นชายเสื้อเหลืองที่นำกระเป๋าเป้ไปวางที่ศาลท้าวมหาพรหม จนเกิดเหตุระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 58 โดยนำจุดสังเกตเรื่องการพรางตัวใส่วิก และรอยแผลเป็นที่แขนซ้ายมาอ้างอิงนั้น นายชูชาติ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการออกมาชี้แจงจากพนักงานสอบสวน และจากการเข้าเยี่ยมเมื่อวานที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้งดเยี่ยม เนื่องจาก นายอาเดม ป่วยหนักจนต้องมีแพทย์มาตรวจ ซึ่งพบว่าป่วยเป็นไข้หวัด และความดันสูง ประกอบกับ นายอาเดม ไม่ยอมรับประทานอาหาร เบื้องต้นจากการเข้าพบ นายอาเดม ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ยังให้การปฏิเสธเรื่องระเบิดอยู่ และยังไม่มีการยอมรับเรื่องเป็นชายเสื้อเหลือง แต่ถ้า นายอาเดม
รับสารภาพจริง ก็ต้องดูเหตุผลประกอบว่า รับด้วยเหตุผลใด อาจมีการโน้มน้าวให้รับสารภาพหรือไม่อย่างไร เพราะส่วนตัวดูจากรูปลักษณ์ของ นายอาเดม เทียบกับชายเสื้อเหลืองในวันเกิดเหตุ สรีระร่างกายคนละเรื่องกัน และคนในภาพวงจรปิด มีลักษณะไหล่กว้าง และไหล่ตรง แต่ นายอาเดม เป็นคนตัวเล็ก ไหล่ตก ใบหน้าก็คนละแบบ และเท่าที่พูดคุยกับ นายอาเดม จากการสังเกตแขนซ้าย นายอาเดม เท่าที่ดูคร่าว ๆ ไม่มีแผลเป็นแน่นอน และส่วนตัวยังรู้สึกงงว่าข่าวออกมาได้อย่างไร
ทั้งนี้ นายชูชาติ จะเดินทางไปเยี่ยม นายอาเดม อีกครั้ง ในเวลา 08.30 น. ของวันจันทร์ (28 ก.ย. 58) เพื่อสอบถามรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
คสช.แถลงอาเดม-ยูซุฟูให้การประโยชน์เร่งสอบ
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการการติดตามสืบสวนคดีระเบิดแยกราชประสงค์ ว่า ยังคงมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้ออกหมายจับชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ แต่สามารถพูดภาษาไทยได้ดี ผิวขาว อายุ 30 ปี สูง 171 ซม. ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย การออกหมายจับครั้งนี้ สืบเนื่องจากชายคนดังกล่าวไปเลือกซื้ออุปกรณ์ระเบิดที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง เขตคลองเตย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับของกลางวัสดุประกอบระเบิดที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบในห้องพักที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ เขตหนองจอก ด้วย นับเป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคนที่ 15 สำหรับการสอบสวนผู้ต้องหา 2 ราย ที่ถูกควบคุมตัวไว้นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่าผู้ต้องหาให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบในการจัดทำสำนวนคดีให้มีความรัดกุมและมีความสมบูรณ์ให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ ขอเรียนย้ำว่า ขณะนี้แนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ยังให้ความสำคัญและไม่ละทิ้งในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ที่อาจเกี่ยวโยงกับการก่อเหตุดังกล่าว จึงขอความร่วมมือประชาชนที่ได้ให้ความสนใจและติดตามความคืบหน้าในคดีนี้อาจรับฟังการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของคดี แต่ไม่ควรด่วนสรุปเชื่อไปตามที่มีการวิเคราะห์นั้น จนกว่าทางศูนย์ติดตามสถานการณ์ คสช. จะชี้แจงให้ทราบอย่างเป็นทางการ รวมถึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารอย่างนะมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อปรากฏข้อมูลใหม่ ๆ ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ เพราะอาจจะถูกนำไปใช้อ้างอิงและเผยแพร่ต่อ ซึ่งหากภายหลังข้อเท็จจริงไม่ตรงกับข้อมูลที่นำเสนอออกไปแล้วนั้น จะเป็นการสร้างความสับสนและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้