คสช.ประสานตร.สากลล่าบึ้ม-ทหารรอมอบ1พยานให้ตร.

คณะรักษาความสงบแห่งชาติ แถลงประสาน ตำรวจสากล ล่าผู้ต้องหาคดีระเบิด พร้อมขอประชาชนที่มีข้อมูลผู้ต้องสงสัยช่วยแจ้งเบาะแส ขณะที่ ผบ.ตร. ระงับทีมซักถามไปมาเลย์เชื่อ 3 ต้องสงสัยไม่โยงบึ้ม - ทหารรอ มอบ1พยานให้ ตร.สอบ
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. โดยศูนย์ติดตามสถานการณ์เหตุระเบิดราชประสงค์ และท่าเรือสาทร แถลงประจำวัน โดยมี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานสรุปความคืบหน้าทางคดี ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทราบกลุ่มคนร้ายแล้ว หลังจากที่ไปตรวจค้นห้องพักย่านหนองจอก และจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย พร้อมขยายผลจนสามารถออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ได้ 13 หมายจับ และใน 13 หมายจับนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ 1 ราย พร้อมเร่งติดตามบุคคลที่หลบหนี โดยการประสานยังต่างประเทศใช้ช่องทางผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และประสานงานใกล้ชิดกับตำรวจสากลอีกด้วย
ทางด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุ เจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งจะต้องใช้เวลา เพื่อความรอบคอบ พร้อมขอประชาชนที่มีข้อมูลผู้ต้องสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ หรือ โทรสายด่วน 1515
สมยศระงับทีมซักถามไปมาเลย์เชื่อ3คนไม่โยงบึ้ม
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรววจแห่งชาติ ว่า ได้สั่งระงับชุดซักถามที่นำโดย พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ ในการเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมซักถามผู้ต้องสงสัย 3 คนที่ทางการมาเลเซียจับได้แล้ว เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าทั้ง 3 คนเกี่ยวข้องกับเหตุแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร หากไม่เกิดประโยชน์ อีกทั้งเป้าหมายหรือผู้ต้องหาที่ทางการไทยติดตามตัว อาจไม่อยู่ในมาเลเซียแล้ว โดยส่วนหนึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการนำเสนอข้อมูลของสื่อมวลชนที่รวดเร็วทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวและหลบหนีไปแล้วพร้อมยืนยันว่า หากพยานหลักฐานพบว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงใคร ก็จะมีการรวบรวมเพื่อออกหมายจับต่อไป
ส่วนการตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตจำนวน 251 เล่ม ที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของไทยสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของจริงหรือปลอม โดยไม่จำเป็นต้องส่งไปให้ประเทศต้นทางที่ระบุในพาสปอร์ตตรวจสอบเพราะจะทำให้สำนวนการสอบสวนเสียหาย และส่งผลต่อพยานหลักฐานได้ ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานกับประเทศต้นทางเพื่อร่วมตรวจสอบแล้ว
'จักรทิพย์'ยันออกหมายจับคดีบึ้มหลักฐานพอ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยก่อนการเข้าประชุมติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ และบริเวณท่าเรือสาทร ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่า ในวันนี้จะได้ดูภาพรวมของคดีทั้งหมดอีกครั้งว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกระบวนการได้เพิ่มอีกหรือไม่ รวมทั้งการสืบสวนสอบสวนทั้งหมดด้วย ว่าจะสามารถออกหมายจับคดีการค้ามนุษย์ หรือ ก่อการร้าย ว่าเข้าข่ายของข้อกฎหมายหรือไม่ แต่ยืนยันมีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการหลบหนีเข้าเมือง
ส่วนการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปซักถามเพื่อขอข้อมูล ผู้ต้องหาที่ทางการมาเลเซีย ควบคุมตัวได้ทั้ง 3 คน นั้น ได้ให้แนวทางการซักถามกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว มั่นใจจะเข้าไปพูดคุยได้ แต่ต้องเข้าให้ถูกทาง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายของมาเลเซียด้วยว่าจะมีอำนาจเพียงใดสำหรับการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดที่ผ่านมานั้น มั่นใจเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการก่อเหตุแน่นอน
โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ผู้ต้องสงสัย ที่ทางการมาเลเซียจับกุมได้ จะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาเสื้อเหลือง และเสื้อฟ้า ที่ก่อเหตุระเบิดออกนอกประเทศ หรืออำนวยความสะดวกนั้น ยังไม่มีข้อมูล ขณะนี้คาดว่าผู้ต้องหาเสื้อฟ้าและเสื้อเหลืองเดินทางไปประเทศที่สามแล้ว พร้อมยอมรับว่า การนำเสนอข่าวเป็นอุปสรรคในการทำงาน และทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวทันจนหลบหนี ด้านการส่งมอบตัวหญิงวัย 40 ปี ที่ถูกเชิญตัวจากห้องพักย่านดินแดง ไปสอบปากคำในช่วงบ่ายนี้ ยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ทหาร แต่คาดว่าภายในวันนี้
ทั้งนี้ภายหลังการเข้าประชุมติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ และบริเวณท่าเรือสาทร ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า เบื้องต้นวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายสรุปว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว หลังจากนี้ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด หลังก่อนหน้านี้ทำให้ผู้ต้องหาไหวตัว และหลบหนีไป โดยเฉพาะการสืบสวนสอบสวน ผู้ต้องหาที่สามารถจับได้แล้ว ให้คำนึงถึงห้วงเวลาที่ใช้ในการควบคุมตัว
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพรหม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ได้รับคำสั่งให้ประสานกับ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ในการติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีไปมาเลเซีย รวมทั้งการประสานกับเจ้าหน้าที่มาเลเซียในแนวทางการปฏิบัติด้วย และให้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลไปหาข้อมูลจากหลักฐานที่มีอยู่เพิ่มเติม รวมทั้งเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งหมดด้วย ส่วนการแจ้งข้อหาขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ยันยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาแต่อย่างใดในส่วนของ พล.ต.ท.ชัยวัตร เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบบาล เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายให้ประสานกับ พล.ต.ท.สุชาติ เช่นกันในการเก็บข้อมูลผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนที่ทางการมาเลเซียควบคุมตัวได้ รวมถึงกรอบการปฏิบัติในการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยที่ยังหลบหนี ซึ่งคาดว่าผู้ต้องสงสัยที่ทางการมาเลเซียควบคุมตัวได้ทั้ง 3 คน เป็นกลุ่มลักลอบขนคนเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย แต่จะเชื่อมโยงกับการพาชายเสื้อฟ้า และชายเสื้อเหลืองหลบหนีหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้
ประวุฒิไม่ยันชายบังกลาเทศถูกจับที่พม่าโยงบึ้ม
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีที่ทางการเมียนมา จับกุมตัว นายดิว มูฮัมหมัด ชาวบังกลาเทศ ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและเป็นผู้ต้องหาที่ทางการมาเลเซียต้องการตัว ว่า ยังไม่ยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานครหรือไม่ แต่ยอมรับว่าทางการไทยได้มีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเราทั้งหมดแล้ว ทั้งเมียนมา มาเลเซีย ลาว และกัมพูชา เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาอาจจะลักลอบหลบหนีออกนอกพื้นที่ตามแนวชายแดน
ส่วนชุดซักถามที่นำโดย พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ และคณะที่เดินทางไปมาเลเซียนั้น ยังไม่มีรายงานกลับมาว่าได้เข้าพบผู้ต้องหา 3 ราย ที่ทางการมาเลเซียจับกุมตัวได้
อย่างไรก็ตาม โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดทั้งหมดที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล คาดว่าน่าจะมีความคืบหน้าในทางคดีมากขึ้น