ครม.โยกผวจ.บิ๊กมท.58ตำแหน่ง-เทแสนล.ให้SMEกู้

ครม.โยกผวจ.บิ๊กมท.58ตำแหน่ง-เทแสนล.ให้SMEกู้

ครม.โยกผวจ.บิ๊กมท.58ตำแหน่ง-เทแสนล.ให้SMEกู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มติ ครม. แต่งตั้งโยกย้าย 58 ตำแหน่ง ก.มหาดไทย 'ปวิณ' นั่ง ผวจ.เชียงใหม่, 'วิเชียร' ผวจ.นครราชสีมา พร้อม โยก 'พงษ์ภาณุ' นั่งปลัดท่องเที่ยวฯ ขณะ อนุมัติวงเงินกู้ 1 แสนล้านบาท ให้SMEกู้ - ปิดโครงการรถคันแรก 30 ก.ย.นี้

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูงจำนวน 58 ราย อาทิ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสมดี คชายั่งยืน รองอธิบดีกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายชาญนะ เอี่ยมแสง รองอธิบดีกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด

นอกจากนี้ ยังโยกย้าย นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายอำนวย ตั้งเจริญชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เช่นกัน


มติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (ระดับ 10) ดังนี้


1. นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
2. นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี
3. นายคณิต เอี่ยมระหงส์ จากผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท
4. นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย 
5. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
6. นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
7. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
8. นายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์
9. นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี
10. นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
11. นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
12. นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
13. นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่
14. นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก
15. นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
16. นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
17. นายทรงพล สวาลดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
18. นางสาวจิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม
19. นายอัครเดช เจิมศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี
20. นายวงค์ศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
21. นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
22. นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

23. นายพินิจ บุญเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
24. นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
25. นายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ
26. นายสมดี คชายั่งยืน รองอธิบดีกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
27. นายชาญนะ เอี่ยมแสง รองอธิบดีกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด
28. นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก
29. นายสมชาย วิทย์ดำรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
30. นายสิทธิชัย ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
31. นายสุวัฒน์ พรหมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน
32. นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา
33. นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร
34. นายสนิท ขาวสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี
35. นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
36. นายโชคชัย เดชอมรธัญ รองอธิบดีกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม
37. นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์ศรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร
38. นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
39. นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร
40. นายดลเดช พัฒนรัฐ รองอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
41. นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
42. นายภานุ แย้มศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี
43. นายเจน รัตนพิเชฏฐชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล

44. นายแม้นรัตน์ รัตนสุคนธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
45. นายภัคพงษ์ ทวีพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์
46. นายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
47. นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง
48. นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ
49. นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสรรค์ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์
50. นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี
51. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
52. นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
53. นายภคพงษ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา
54. นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย


ครม.โยก "พงษ์ภาณุ" นั่งปลัดท่องเที่ยว

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติแต่งตั้งโยกย้าย นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้ง นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ร่วมรักษ์ เอกอัครราชทูตคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ณ นครเจนีวา ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าภายใน และนายบุญฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ณ นครเจนีวา 


ครม.อุนมัติ1แสนล.ให้SMEกู้ดบ.ไม่เกิน4%

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า การช่วยเหลือทางการเงินให้กับ SME นั้นจะให้ทางธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงินกู้ 1 แสนล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ธนาคารออมสินรวมกว่า 2,800 ล้านบาท ระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี นอกจากนี้ ยังนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาค้ำประกันให้กับ SME เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินได้ ส่วนเรื่องมาตรการทางภาษีนั้นจะช่วย SME ให้ได้รับการลดหย่อนภาษี เหลือร้อยละ 10 จากเดิมร้อยละ 15 เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อช่วยเหลือ SME ซึ่งในปัจจุบัน SME ขนาดเล็กที่มีกำไรไม่เกิน 3 แสนบาทนั้น จะได้รับการลดหย่อนภาษี และตั้งแต่ 3 แสนบาทขึ้นไปจนถึง 3 ล้านบาท จะเสียภาษีในอัตราร้อยละ 15 นอกจากนี้ หากเป็น SME ที่เริ่มต้นจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 - วันที่ 31 ธันวาคม 2559 และเป็นสาขาที่เป็นประโยชน์จะได้รับการลดหย่อนภาษีนานถึง 5 ปี

ครม.ปิดโครงการรถคันแรก 30 ก.ย.นี้

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ที่ประชุมพิจารณากำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการรับมอบรถยนต์ตามโครงการรถยนต์คันแรก โดยกำหนดให้ สิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยผู้ขอใช้สิทธิ์จะได้รับสิทธิตามโครงการรถยนต์คันแรกได้จะต้องรับมอบรถยนต์ภายในวันที่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น โดยจากการสำรวจในช่วงท้ายมีประชาชนเพียง 3-4 รายต่อเดือนเท่านั้นที่เข้ามาขอยื่นใช้สิทธิ์ในโครงการดังกล่าว จากจำนวนที่จองสิทธิ์ 100,000 ราย และมีการรับรถจริงไม่ถึง 3,000 ราย จึงคาดว่าจำนวนที่รัฐจะต้องชดเชยจ่ายภาษีวงเงิน 80,000-90,000 ล้านบาท


ครม.เห็นชอบโยกย้ายก.เกษตรฯ14ตำแหน่ง

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอโยกย้ายและสับเปลี่ยนข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหาร ระดับสูง จำนวน 14 ตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสุรพงษ์ เจียสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประมง, นายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมวิชาการเกษตร, นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมหม่อนไหม, นายสมปอง อินทร์ทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์, นายวิณะโรจน์ ทรัยพ์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์, นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการข้าว, นายเลอศักดิ์ ลิ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร, นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และ นายสุรเดช เตียวตระกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป


ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์ตำบลละ 5 ลบ.

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการเสนอหลักเกณฑ์มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล โดยงบประมาณให้ตำบลละ 5 ล้านบาท ซึ่งกำหนดกติกาในส่วนงบที่จัดสรร ให้นับรวมกับงบประมาณจากหน่วยงานอื่น ที่ตำบลจะได้รับ เช่น ตำบลใดได้รับเงินการจัดสรรจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วครบ 5 ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรเพิ่มเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ส่วนตำบลไหนที่ยังได้รับเงินไม่ครบ 5 ล้านบาท ก็จะได้รับจนครบจำนวน

ทั้งนี้ เงินที่ได้รับการจัดสรรจะต้องนำไปพัฒนาแนวทางซ่อมแซมบูรณะสาธารณูปโภค เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในชุมชน เพิ่มศักยภาพประชากร ซ่อมแซมศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งโครงการทั้งหมดจะต้องเป็นโครงการสามารถดำเนินการได้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และสถานที่โครงการจะต้องเป็นพื้นที่สาธารณะ หากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลจะต้องมีหนังสือรับรอง



ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์ตำบลละ 5 ลบ.

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการเสนอหลักเกณฑ์มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล โดยงบประมาณให้ตำบลละ 5 ล้านบาท ซึ่งกำหนดกติกาในส่วนงบที่จัดสรร ให้นับรวมกับงบประมาณจากหน่วยงานอื่น ที่ตำบลจะได้รับ เช่น ตำบลใดได้รับเงินการจัดสรรจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วครบ 5 ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรเพิ่มเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ส่วนตำบลไหนที่ยังได้รับเงินไม่ครบ 5 ล้านบาท ก็จะได้รับจนครบจำนวน

ทั้งนี้ เงินที่ได้รับการจัดสรรจะต้องนำไปพัฒนาแนวทางซ่อมแซมบูรณะสาธารณูปโภค เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในชุมชน เพิ่มศักยภาพประชากร ซ่อมแซมศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งโครงการทั้งหมดจะต้องเป็นโครงการสามารถดำเนินการได้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และสถานที่โครงการจะต้องเป็นพื้นที่สาธารณะ หากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลจะต้องมีหนังสือรับรอง


มติครม.ตั้งข้าราชการก.เกษตร,อุตฯ

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการบริหารระดับสูงในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ นายวิมล จันทรโรทัย เป็นอธิบดีกรมประมง นายสมชาย ชาญณรงค์กุล เป็นอธิบดีกรมการเกษตร นายอภัย สุทธิสังข์ เป็นอธิบดีกรมหม่อนไหม นายสมปอง อินทร์ทอง เป็นอธิบดีกรมตรวจบันชีสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายอานันต์ สุวรรณรัตน์ เป็นอธิบดีกรมการข้าว นายเลอศักดิ์ ลิ้วตระกูลไพบูลย์ เป็นอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นายสุรเดช เตียวตระกูล เป็นอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เป็นต้น

ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมแต่งตั้ง นายสมหมาย หาญหิรัญ เป็นอธิบดีกรมส่วเสริมอุตสาหกรรม



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook