สมยศส่งตร.แฝงตัวต่างชาติหาข่าวบึ้มเชื่อมีไทยร่วมตปท.
ผบ.ตร. ส่ง จนท.นอกเครื่องแบบ แฝงตัวชาวต่างชาติหาข่าวระเบิด เชื่อ มีไทยรวมต่างประเทศ ขณะที่ 'ประวุฒิ' บอก DNA แบงค์20 ไม่ตรงหลักฐานในTAXI ยัน 3อุยกรู์ไม่โยง ด้าน คสช. ย้ำ คดีคืบหน้า ลุยเก็บหลักฐานมั่นใจจับได้
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีระเบิดทั้ง 2 จุด ร่วมประชุมหารือและสรุปความคืบหน้าคดีดังกล่าวให้ที่ประชุมทราบ โดย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้วิธีการให้ตำรวจนอกเครื่องแบบ ร่วมอาสาสมัครที่มีความรู้ความชำนาญด้านภาษา ลงพื้นที่แฝงตัวในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งในแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติเพื่อหาข่าวและข้อมูลของคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิด การสอบสวนพยานทุกคน ตลอดจนสรุปความคืบหน้าในการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทั้งของภาครัฐและเอกชน การนำอุปกรณ์พิเศษที่ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากต่างประเทศ และบริษัทเอกชนต่าง ๆ ผลเป็นที่น่าพอใจว่าจากความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการคลี่คลายคดีของเจ้าหน้าที่ ทำให้คดีมีความคืบหน้าไปมากจนทำให้สามารถทราบถึงกระบวนการและกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ร่วมกันก่อเหตุ
โดยมีความชัดเจนมากขึ้นว่า คนร้ายน่าจะมีหลายคนทำเป็นกระบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ และน่าจะมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเร่งทำการสืบสวนสอบและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
คสช.ย้ำคดีบึ้มคืบลุยเก็บหลักฐานมั่นใจจับได้
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวเหตุระเบิดราชประสงค์ ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์ความคืบหน้าเหตุระเบิด ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสืบคดีล่าสุด ว่า ยังคงมีความก้าวหน้าตามลำดับห้วงเวลา การสืบทางเทคนิค ทั้งจากกล้อง CCTV หรือผลพิสูจน์จากงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ถูกเก็บบันทึกเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลสำคัญ ในการเปรียบเทียบพิสูจน์ทราบบุคคลต้องสงสัยดำเนินการไปเกือบครบถ้วนแล้ว การสืบด้วยข้อมูลทางด้านสังคม การดำเนินชีวิต เช่น การคัดกรองผู้เข้าพักอาศัยในพื้นที่หรือชุมชนต่าง ๆ อยู่ระหว่างการดำเนินการในลักษณะปูพรมในทุก ๆ พื้นที่ ด้วยกำลังจากตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมถึงการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากพี่น้องประชาชน ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นต้องใช้เวลา เพื่อให้ผลลัพธ์มีความสมบูรณ์มากที่สุด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มั่นใจ พอจะมองเห็นเค้าลางบางส่วนแต่คงต้องรอองค์ประกอบอื่น ๆ มาสนับสนุนอย่างเพียงพอ สำหรับการดูแลความปลอดภัยต่อบุคคล และสถานที่ยังคงมีการปรับให้เกิดความเหมาะสมโดยหน้าที่ ทหาร และตำรวจ อย่างดีที่สุด
ประวุฒิยันชาวอุยกูร์3คนไม่เชื่อมโยงเหตุบึ้ม
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่จุดต่าง ๆ หลังได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งมีทิศทางและพื้นที่ในคดีที่แคบลงแล้ว โดยให้ตำรวจนอกเครื่องแบบ ร่วมกับอาสาสมัครที่มีความรู้ด้านภาษา ลงพื้นที่หาข่าวในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ
โดย พล.ต.ท.ประวุฒิ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ข้อมูลชาวอุยกูร์ 3 คน ที่ยังหลบหนีจากด่านกักกัน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ยังไม่เชื่อมโยงกับคดีระเบิด และยืนยันว่าจะไม่มีการปกปิดข้อมูลในคดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งตำรวจได้เก็บรวบรวมดีเอ็นเอจากพยานหลักฐานทั้งในจุดเกิดเหตุ รถที่คนร้ายโดยสาร และธนบัตร เบื้องต้นผลดีเอ็นเอแต่ละจุดยังไม่ตรงกัน
ส่วนเหตุระเบิดบริเวณสะพานสาทร พบว่าชนิดของระเบิดที่คนร้ายใช้ลักษณะใกล้เคียงกันกับเหตุระเบิดราชประสงค์ แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกัน แต่จากการตรวจสอบภาพชายสวมเสื้อสีฟ้า ตามหมายจับ มีผมสีดำ และลักษณะใกล้เคียงกับชาวเอเชีย