WEFเตือนทั่วโลกกำลังจะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง

WEFเตือนทั่วโลกกำลังจะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(30ม.ค.) รายงานฉบับนี้ระบุว่า โลกเสี่ยงจะเข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำถึงขั้นล้มละลาย โดยใช้คำว่า Water bankruptcy หลังยุคฟองสบู่ของการใช้น้ำในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยระบุว่า ในอีกไม่ถึง 20 ปี ภาวะขาดแคลนน้ำอาจทำให้โลกต้องสูญเสียผลผลิตทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก อาจมากเทียบเท่ากับผลผลิตทางการเกษตรของสหรัฐกับอินเดียรวมกัน ซึ่งจะยิ่งทำให้ความต้องการอาหารเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ

รายงานยังเตือนว่าโลกไม่อาจบริหารจัดการน้ำสำหรับอนาคตในแบบที่ทำมา เพราะหากแนวโน้มในเวลานี้ดำเนินต่อไป ความต้องการน้ำจะเพิ่มขึ้นและแซงหน้าการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร นอกจากนี้ หลายพื้นที่ทั่วโลกยังประเมินคุณค่าของน้ำต่ำกว่าที่ควร จึงมีการใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือรวมถึงใช้มากเกินความจำเป็น

รายงานระบุว่า น้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยและทิเบตจะหายไปเกือบหมดภายในปี 2643(อีก91ปี) หากการละลายยังเป็นอยู่ในระดับปัจจุบัน แต่น้ำแข็งเหล่านี้เป็นแหล่งน้ำให้กับประชากรกว่า 2 พันล้านคน ขณะที่แม่น้ำหลักประมาณ 70 สายทั่วโลกกำลังเหือดแห้งและภายในสองทศวรรษนี้น้ำจะกลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนหันมาให้ความสนใจมากเสียยิ่งกว่าน้ำมัน

อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ โคฟี่ อันนัน กล่าวในที่ประชุมเมื่อวานนี้ว่า ปัญหาน้ำเป็นเรื่องใหญ่และเกี่ยวข้องกับการจัดการอย่างเป็นระบบ ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงต้องรับมือกับวิกฤตินี้อย่างรอบคอบ เช่นเดียวกับ ปีเตอร์ เบรเบค-เลทแมธ ประธานบริษัทเนสท์เล่ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เชื่อว่า โลกจะขาดแคลนน้ำก่อนที่จะขาดแคลนน้ำมัน หากปล่อยให้ทุกอย่างเป็นอย่างนี้ต่อไป

โรฮิงญา ถูกทหารพม่าทารุณ! เหรียญอีกด้านที่สื่อนอกละเลย

การเปิดประเด็น ทหารเรือไทย ทารุณกรรมผู้อพยพชาวโรฮิงญา ก่อนจะตามมารุมถล่มอีกชุดใหญ่จากสื่อหัวใหญ่ๆ ทั่วโลก ล่าสุดก็เป็นซีเอ็นเอ็นที่ย้ำหัวตะปูด้วยภาพที่อ้างว่า ทหารเรือไทยชักลากเรือผู้อพยพออกไปลอยเท้งเต้งกลางทะเล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook