อ.เจษฎา มองเหตุระเบิดในมุมการส่งตัวชาวอุยกูร์

อ.เจษฎา มองเหตุระเบิดในมุมการส่งตัวชาวอุยกูร์

อ.เจษฎา มองเหตุระเบิดในมุมการส่งตัวชาวอุยกูร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟสบุ๊ก กรณีเหตุระเบิดเมื่อช่วงค่ำขอวสันที่ 17 สิงหาคม 2558 โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเกือบ 20 คน บาดเจ็บนับร้อย โดยระบุว่า

ติดตามข่าวระเบิดศาลพระพรหมทั้งคืนอย่างเศร้าใจ ... ยิ่งเคยติดตามข่าวระเบิดภาคใต้เรื่อยๆ ยิ่งเศร้าใจหนัก .... แถมบนเฟซก็มีแต่ด่ากันไปกันมาระหว่างสีต่างๆว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนทำ ซึ่งก็ไม่แปลกใจ เพราะความเกลียดชังไม่ถูกปลุกปั่นมาจนฝังลึกแล้ว ย่อมมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู เป็นคนทำ โดยไม่ต้องมีหลักฐานอะไร

ผมสนใจข่าวนี้มากกว่า ที่เริ่มวิเคราะห์ด้วยหลักฐานทางวัตถุระเบิดทางพิสูจน์หลักฐาน ลองอ่านกันดูครับ ... ถ้าเป็นการก่อการร้ายข้ามชาติจริง เรากำลังเข้าสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา

อ่านแล้วก็อย่าพึ่งเชื่ออะไรตอนนี้นะครับ รับฟัง คิดวิเคราะห์ โดยไม่ตื่นตระหนกครับ
----
จากการตรวจสอบกับบุคคลในหน่วยงานความมั่นคงทั้งระดับสูงและระดับหัวหน้าผู้ปฏิบัติ ซึ่งทั้งหมดมีตัวตนและยังปฏิบัติหน้าที่อยู่จริง พบข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากคำแถลงของรัฐบาลดังนี้

1.จุดเกิดเหตุระเบิด ไม่ว่าจะมี 1 หรือ 2 จุด และไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์บอมบ์ หรือระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกไว้ริมรั้วศาลพระพรหมก็ตาม ประเด็นที่สำคัญกว่านั้น คือ รูปแบบของระเบิดและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ เจ้าหน้าที่จากหน่วยทำลายวัตถุระเบิด หรืออีโอดี ระบุว่า ดินระเบิดหลักที่คนร้ายใช้ เป็น "ทีเอ็นที" น้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 ปอนด์ ขณะนี้ยังไม่พบตัวจุดระเบิด ขณะที่สะเก็ดระเบิดเป็นลูกปืนรถขนาด 2 หุน หรือที่เรียกว่า "บอล แบริ่ง"

2.การใช้ "ทีเอ็นที" เป็นดินระเบิด และใช้ "บอล แบริ่ง" เป็นสะเก็ด ยังไม่เคยปรากฏใช้ก่อเหตุในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือในประเทศไทยเลย โดยมากพบในตะวันออกกลาง

3.ทีเอ็นที และ "บอล แบริ่ง" เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเสื้อของมือระเบิดพลีชีพ ซึ่งเคยพบในตะวันออกกลางเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องชันสูตรศพในที่เกิดเหตุให้ชัดเจน โดยเฉพาะศพที่ชิ้นส่วนร่างกายแหลกเหลว ว่าใส่เสื้อระเบิดพลีชีพหรือไม่

4.ก่อนหน้านี้มีการแจ้งเตือนการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย โดยเป็นกลุ่มที่ต่อสู้กับพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลาง ซึ่งทางการไทยยังติดตามจับกุมไม่ได้ มีโอกาสหรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเที่ยวนี้

5.บริเวณที่เกิดเหตุระเบิดเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับความเชื่อทางศาสนา (ศาลพระพรหม) น่าจะเป็นความจงใจของกลุ่มผู้ก่อเหตุ จึงน่าถอดรหัสในส่วนนี้ต่อ

6.บริเวณที่เกิดเหตุมีผู้คนพลุกพล่าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเหตุระเบิดก็ทำให้ชาวจีนเสียชีวิตหลายคน ขณะที่ทางการไทยเพิ่งตัดสินใจส่งตัวชาวมุสลิมอุยกูร์กว่า 100 ชีวิตไปให้รัฐบาลจีนเมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางการคัดค้านของรัฐบาลตุรกี (ที่เสนอตัวรับมุสลิมอุยกูร์กลุ่มนี้ไปตั้งถิ่นฐาน) และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก

ทั้งนี้เพราะชาวอุยกูร์จากมณฑลซินเจียงถูกทางการจีนกดดันอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มหัวรุนแรงที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนและสถาปนารัฐใหม่ ขณะที่รัฐบาลจีนก็พยายามเชื่อมโยงกลุ่มดังกล่าวเข้ากับขบวนการก่อการร้ายสากล และใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการจัดการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook