บึ้มราชประสงค์ตาย22เจ็บนับกว่า100ราย-UNประณาม

แพทย์ รพ.ตร. เผย เหตุระเบิดแยกราชประสงค์ เสียชีวิตแล้ว 22 ราย บาดเจ็บกว่า 100 ราย ขณะ ผบ.ตร.ลงดูพื้นที่เกิดเหตุ ยัน ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ด้าน UN ประณาม ส่วนสหรัฐฯ อังกฤษ เตือนพลเมือง
พลตำรวจตรีวิฑูรย์ นิติวรางกูร รองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลตำรวจ 4 ศพ ประกอบด้วย นายสุวรรณ์ สัตย์มั่น อายุ 30 ปี นายไดวู เชงกิ ไม่ทราบสัญชาติ นางสาวลิม ซอ เก็ก ชาวมาเลเซีย และนางสาวเกา ยูซู สัญชาติจีน ด้านผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจทั้งหมด 39 คน ที่มีอาการสาหัส 6 คน ประกอบด้วย นายชาง เตา ยวน ชาวจีน อายุ 45 ปี, นางสาวหยิง ซาง ชาวจีน อายุ 39 ปี, เด็กหญิง หม่า ซีฉู อายุ 10 ขวบ ชาวจีน, นางสาวโหลว เล ฮัว ชาวจีน, นายโคตะ อันโดะ ชาวญี่ปุ่น อายุ 31 ปี และนางสาวจินตนา จรัญ อายุ 68 ปี ส่วนยอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดในขณะนี้มี 20 คน ตัวเลขผู้บาดเจ็บประมาณ 141 คน
ประวุฒิคาดไม่มีก่อเหตุบึ้มซ้ำยังหวั่นข่าวลือ
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากเหตุการณ์ระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อช่วงค่ำเมื่อวานที่ผ่านมา ( 17 สิงหาคม) ว่าเบื้องต้น คาดไม่น่าจะมีเหตุการณ์ระเบิดเหมือนเช่นที่แยกราชประสงค์เกิดขึ้นซ้ำแล้ว แต่ถึงอย่างไรทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ประมาทได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าบริเวณจุดสำคัญต่างๆ เช่นสถานที่ท่องเที่ยว และชุมชน ด้านระยะเวลาในการเฝ้าระวังยังไม่สามารถตอบได้ คงต้องอีกสักระยะหนึ่ง
รวมทั้งตั้งแต่เกิดเหตุได้มีการประสารกับเจ้าหน้าที่ในต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ก็กังวนในเรื่องข่าวที่ออกไปหลายข่าวยังไม่เป็นความจริง เตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการรับและแชร์ข่าวสาร และอย่าหลงเชื่อข่าวลือให้ติดตามข่าวจากทางรัฐบาลอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอประชาสัมพันธุ์ถึงประชาชนที่พบเบอะแสของคนร้ายให้โทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้ที่สายด่วน 191 ตลอด 24 ชม. เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนสอบสวนหาคนร้ายต่อไป
ทักษิณประฌามบึ้มราชประสงค์ขอตปท.ช่วย
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 17 ส.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทวิตผ่านทวิตเตอร์ @ThaksinLive ประณามการวางระเบิดถล่มใจกลางกรุงเทพว่า ขณะนี้ผมอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ได้ทราบข่าวเหตุระเบิดที่ กทม. ด้วยความตกใจและสลดใจ ผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ประสบเคราะห์กรรมในครั้งนี้อย่างสุดซึ้ง ผมขอประณามผู้ที่กระทำฯ รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ด้วยคำที่รุนแรงที่สุด ผมขอให้เจ้าหน้าที่รีบดำเนินการสืบสวน ด้วยการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทุกฝ่าย ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด
ผู้ว่ากทม.ได้ภาพCCTVจุดระเบิดแล้วจ่อถกด่วน
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร โพสทวิสเตอร์ส่วนตัวถึงเหตุระเบิดที่บรเวณแยกราชประสงค์เมื่อช่วงค่ำวานนี้(17 ส.ค.) ว่าในส่วนของภาพเหตุการณ์ทั้งหมดจากกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ใกล้กับจุดเกิดเหตุทั้งหมดมีข้อมูลแล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยและจะขอส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบก่อน รวมทั้ง ในวันนี้ได้มีการเรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ในเวลาประมาณ 10:00 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าจะได้มีการแถลงผลการประชุมต่อสื่อมวลชนให้รับทราบอีกครั้ง
สถานทูตสหรัฐ และ อังกฤษ เตือน พลเมืองในไทย เลี่ยงเข้าพื้นที่เกิดเหตุระเบิด และเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางโฆษกตร.ยันบึ้มราชประสงค์ดับ22เจ็บ123ราย
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุระเบิดบริเวณราชประสงค์ ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดจากทางกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว เพื่อนำมาวิเคราะห์ ซึ่งหลังจากนี้เตรียมพิสูจน์เอกลักษณ์ของระเบิด และสรุปความเป็นไปได้ พร้อมระบุว่าเหตุการณ์ระเบิดนี้แตกต่างจากเหตุบริเวณบีทีเอส สยามพารากอน เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากครั้งนี้เป็นระเบิดที่รุนแรงมาก มุ่งหวังเอาชีวิตประชาชนอย่างชัดเจน
ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้ มี 22 ราย และบาดเจ็บ 123 ราย อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ ผบ.ตร. จะประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อติดตามและวิเคราะห์เหตุการณ์ดังกล่าว
ผบ.ตร.ลงดูบึ้ม-ให้กำลังใจจนท.ปฏิบัติงาน
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดลานพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เมื่อวานที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นไปอย่างซึมเศร้า มีผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างชาติ ปักหลักติดตามความเคลื่อนอย่างใกล้ชิด ขณะที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี และกองพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนยอดของผู้เสียชีวิตรวมล่าสุดอยู่ที่ 20 ราย ได้รับบาดเจ็บรวมอยู่ที่ 141 ราย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ กำชับสั่งการ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้มีการปิดการจราจรโดยรอบจุดเกิดเหตุ กั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ ก่อนจะทำการเปิดการจราจรอีกครั้ง ในเวลา 12.00 น.
ผบ.ตร.ยันเหตุบึ้มยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
บรรยากาศบริเวณสี่แยกราชประสงค์ จุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณริมรั้วของศาลพระพรหม เอราวัณ แยกราชประสงค์ ตำรวจ ทหาร ยังคงตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และกันพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุ และล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจวัตถุระเบิด หรือ EOD ทหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบว่า จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่ยืนยันได้แน่ชัดว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดชนิดใด แต่ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแรงดันสูงมุ่งหมายเอาชีวิตอย่างแน่นอน เรื่องจากดูจากการเลือกสถานที่เวลาเกิดเหตุ ส่วนการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ ล่าสุด จนท.ได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ทั้งของ กทม. และเอกชน โดยขอใช้เวลาทำงานสักระยะหนึ่ง ส่วนในที่เกิดเหตุเก็บพยานหลักฐานได้น้อย เนื่องจากการทำงานของระเบิดสมบูรณ์ เผาไหม้ทุกอย่างหมดไป สำหรับสาเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และไม่ด่วนสรุป เพราะต้องรอผลการสอบสวนรอพยานหลักฐานทุกด้าน ยังไม่ขอด่วนสรุปว่าเป็นคนไทย หรือต่างชาติที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้อย่างแน่นอน ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ได้มีการกำชับสั่งการให้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ และในเวลาประมาณ 07.00-07.30 น. นายกรัฐมนตรี จะประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์มาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. ยืนยันว่า การข่าวของเจ้าหน้าที่ไม่บกพร่อง และมีการประสานหน่วยงานความมั่นคงทั้งในและต่างประเทศ แต่ยอมรับว่าพื้นที่กว้าง การเฝ้าระวังทำด้วยความยากลำบาก ส่วนผู้ก่อเหตุได้มุ่งก่อเหตุตลอดเวลา ทำให้มีช่องว่าง พร้อมขอประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุ และขอโทษประชาชน รวมถึงขอแสดงความเสียใจกับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ผบ.ตร.นำถกเหตุบึ้มรับต้องใช้เวลาหาผู้ก่อเหตุ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าประชุมสรุปสถานการณ์เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมยอมรับว่า การสืบสวนเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา แต่ไม่กำหนดกรอบการทำงาน เนื่องจากต้องรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุให้มากเพียงพอ จึงจะสามารถระบุกลุ่มผู้ก่อเหตุได้
ส่วนพยานหลักฐาน ขณะนี้ยอมรับว่า แม้ระเบิดครั้งนี้จะทำงานสมบูรณ์แบบและไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ แต่ก็มั่นใจว่ามีหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงถึงผู้กระทำผิดได้ โดยตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองและความขัดแย้งเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์ ที่ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยได้ส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน
ผบ.ตร. เปิดเผยอีกว่า เตรียมเชิญตัวแทนทูตต่างชาติเข้าพบ เพื่อชี้แจงและสร้างความมั่นใจหลังเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้ เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กลับคืนมา
ขณะที่ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐาน เปิดเผยว่า ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่เมื่อคืน ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าที่ผ่านมา เบื้องต้นได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบหาตัวผู้ต้องสงสัย
ด้าน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ลักษณะของระเบิดจุดชนวนด้วยการตั้งเวลา มีการต่อวงจรแบบมืออาชีพ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ มักพบว่ามีการประกอบกันมากในกลุ่มชาวต่างชาติ โดยพบสะเก็ดลูกปลายเป็นหลักฐานที่ชัดเจน ส่วนการต่อวงจรระเบิดชนิดนี้ เคยพบก่อเหตุหลายพื้นที่ในประเทศไทย แต่ไม่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ::::::
เลขาUNบึ้มไทย-สหรัฐฯเตือนพลเมือง
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=639654