มติกตช.เอกฉันท์ตั้ง จักรทิพย์ ชัยจินดา นั่งผบ.ตร.คนใหม่
ที่ประชุม ก.ต.ช. มีมติเอกฉันท์ เลือก 'พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา' เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ แทน 'พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง' ที่จะเกษียณอายุราชการ 30 กันยายน
พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม 1 ในคณะกรรมการ ก.ต.ช. เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ เลือก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสอันดับ 5 เป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ แทน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ นับเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 11 และมีอาวุโสน้อยสุดในบรรดาแคนดิเดต ผบ.ตร. ทั้ง 5 คน
ส่วนบรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไม่ได้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะมีประชุมที่รัฐสภา เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 ที่เป็นคู่ชิง ก็ไม่ได้เดินทางเข้าสำนักงานเช่นกัน เนื่องจากมีภารกิจประชุมที่รัฐสภา
สำหรับ พล.ต.อ.เอก เคยเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่ง ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.สมยศ เมื่อปีที่ผ่านมา แต่พลาด ทำให้ถูกจับตาว่ามีโอกาสในปีนี้อีก แต่ที่ประชุม ก.ต.ช. เลือก พล.ต.อ.จักรทิพย์
ประวัติของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ ผบ.ตร. คนที่ 11 ประวัติ นั้น เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2502 มาจากครอบครัวที่มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี บิดาคือนายประณีต ชัยจินดา นักธุรกิจคนดังแห่งอ่างศิลา ชลบุรีมีกิจการค้าอาหารทะเลและนายหน้าค้าที่ดินระดับ วีไอพี.แห่งภาคตะวันออก จักรทิพย์มีภรรยาชื่อ ดร.บุษบา ชัยจินดา ทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ฐานะความเป็นอยู่จึงเข้าขั้นมีอันจะกิน ส่วนที่มีทรัพย์สินเฉียดพันล้านบาทนั้น ใครคิดว่าปกติหรือไม่ปกติก็แล้วแต่ใครจะคิด
เส้นทางการศึกษาเมื่อจบจากวชิราวุธวิทยาลัย เข้าสอบเตรียมทหารแต่ไม่ติดจึงเอนทรานซ์เข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมกับนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ปรากฏว่าติดทั้งจุฬาฯและสามพรานแต่เลือกเป็นตำรวจโดยจบนักเรียนนายร้อยรุ่น36 มีเพื่อนประจำรุ่นคนดังก็คือ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันท์ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น พล.ต.ต.อิทธิพล ภิริยะภิญโญ พล.ต.ตสัมฤทธิ์ ตงเต๊า และพล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช เป็นต้น และมีอายุราชการเหลืออีกยาวไกลคือ จะเกษียณอายุราชการ พศ.2563
ในระหว่างรับราชการยังหาทางก้าวหน้าเรียนต่อปริญญาโทสาขาบริหารรัฐกิจ จากสหรัฐอเมริกา ศึกษาเพิ่มเติมหลักสูตรการสอบสวนเหตุระเบิดและหลักสูตร เอฟบีไอ.เส้นทางรับราชการส่วนใหญ่อยู่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล ถือเป็นลูกหม้อคนหนึ่งและด้วยอุปนิสัยที่สุขุมรุ่มลึก พูดน้อย กับอ่อนน้อมถ่อมตน มีจิตใจนักเลงแถมยังกล้าได้กล้าเสียจนเป็นที่เข้าตาถูกใจนายตำรวจรุ่นพี่ๆและในระดับผู้บังคับบัญชาเขาจึงได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
หลังวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะทหารยึดอำนาจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่รักษาการณ์ ผบช.น.แทนพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการควบคุมสถานการ์ในเขตนครบาล
การแต่งตั้งโยกยายนายตำรวจประจำปีที่ผ่านมาเขาได้รับการสนับสนุนจาก ทั้งสายทหาร สายตำรวจอีกทั้งปีกการเมืองสายบุรีรัมย์อันเป็นต้นตำรับกลุ่ม "สีน้ำเงิน"ก้าวขึ้นมาเป็น รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง และบริหาร 1 โดยมีผลงาน ในการคลี่คลายคดีสำคัญๆ มากมายช่วงที่ปผ่านมา ทั้งคดี ฆ่านักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และคดีสำคัญอื่นๆ โดยเแพาะคดีความมั่นคงที่เกดิขึ้น จนที่เป็นได้รับวางใจจากรัฐบาลและคสช.
ก่อนที่จะได้รับการเลือกจาก คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ให้เป็น ผบ.ตร. คนใหม่ คนที่ 11 ในวันที่ 14 สิงหาคม 2558 ถือว่าเป็นผบ.ตร.ที่อายุน้อย และมีอายุราชการอีกยาวไกล